ยานยนต์.net
  • หน้าแรก
  • ข่าวสาร
  • รถยอดฮิต
  • รีวิวรถ
  • บทความแนะนำ
@2021 - All Right Reserved. Designed and Developed by ยานยนต์.net
Category:

แต่งรถ

แต่งรถ

5 ชุดอุปกรณ์เสริมสุดคูล เปลี่ยนรถ กระบะธรรมดา เป็น รถยนต์สายลุย สุดเท่

by yanyon 20 ตุลาคม 2022
written by yanyon
รถยนต์สายลุย

รถกระบะถือเป็นหนึ่งในรถยอดนิยมที่ครองใจนักขับสายลุยมากที่สุด เนื่องจากตัวรถถูกออกแบบมาให้มีความทนทาน แข็งแรงและพร้อมลุยกับทุกเส้นทางการขับขี่ ด้วยเหตุนี้นักพัฒนารถยนต์จึงคิดค้นชุดอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ได้มากยิ่งขึ้น

วันนี้เราจึงจะมาแนะนำชุดอุปกรณ์เสริมสุดคูล ที่จะทำให้รถ กระบะธรรมดา ของเรากลายเป็น รถยนต์สายลุย สุดเท่ที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว

  1. ชุดกันชนโครเมียมรอบคัน

  ชุดกันชนคือหนึ่งในชุดอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างความโดดเด่น เพิ่มความสวยงาม และเสริมความแข็งแรง ให้กับตัวรถของเราได้อย่างดี ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานบนเส้นทางวิบากได้ ดังนั้นชุดกันชนโครเมียม จึงเป็นหนึ่งในชุดอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะทำให้รถ กระบะธรรมดา ของเรากลายเป็น รถยนต์ สายลุย สุดเท่ได้ภายในพริบตา

  1. ชุดล้อยาง

  เพื่อเสริมความเท่และดุดันให้กับตัวรถ ชุดล้อยางถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์แต่งรถที่ไม่ควรมองข้าม อีกทั้งการเปลี่ยนชุดล้อยางยังช่วยให้ตัวรถมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้นด้วย ตลอดจนช่วยเรื่องประหยัดน้ำมันได้ ดังนั้นชุดล้อยางจึงเป็นอุปกรณ์เสริมชั้นเยี่ยมที่จะช่วยให้กระบะของเรากลายเป็นรถสุดเท่ได้ง่าย ๆ 

  1. อุปกรณ์เสริมสำหรับแต่งช่วงล่างและโช้คอัพ

  อีกหนึ่งชุดอุปกรณ์ที่สำคัญและน่าสนใจมากสำหรับสายลุย เพราะนอกจากจะช่วยให้รถดูเท่แล้ว ชุดช่วงล่างและโช้คอัพ ยังช่วยเสริมเรื่องการใช้งานกรณีวิ่งทางไกลหรือบรรทุกของหนัก ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มสมดุลของรถ และเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนให้กับผู้ขับขี่ได้อีกด้วย

  1. ชุดยกกับการบรรทุกของ

  สำหรับกระบะธรรมดาที่อยากอัพเกรดให้รถดูบึกบึนเท่และทรงพลังมากขึ้น ชุดยกสำหรับการบรรทุกของเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากชุดอุปกรณ์เสริมชุดนี้จะช่วยทำให้เราสามารถบรรทุกสินค้าได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมให้ตัวรถดูเท่มีสไตล์และมีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น

  1. ชุดวินซ์สำหรับการเดินทางไกล

  สำหรับสายลุยที่ต้องขับรถทำงานในพื้นที่ห่างไกล ชุดวินสำหรับการเดินทางไกลเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้รถกระบะใช้น้ำมันหรือรถกระบะไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนบนเส้นทางพิเศษได้อย่างดี อาทิทางลาดชัน เขาสูง ตลอดจนทางลูกรังต่าง ๆ ซึ่งชุดวินซ์ ที่ติดไว้นอกจากจะช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยแล้วยังสามารถช่วยเหลือรถคันอื่น ๆ ได้อีกด้วย
  สำหรับอุปกรณ์เสริมที่กล่าวมาข้างต้นเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมสุดเท่ที่จะช่วยเปลี่ยนรถ กระบะธรรมดา กลายเป็น  รถยนต์ สายลุย สุดเท่ที่ใครเห็นต้องอิจฉา ดังนั้นหากใครที่สนใจอยากจะซื้ออุปกรณ์เสริมใด ๆ เพื่อเพิ่มความเท่ให้กับรถกระบะ ควรศึกษาเรื่องรูปแบบการใช้งาน ตลอดจนคำนวณงบประมาณให้เหมาะสมเพื่อให้เราใช้งานชุดอุปกรณ์เสริมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุมากจนเกินไป

อ่านเพิ่มเติม: ออก รถใหม่

20 ตุลาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

6 เคล็ดลับ แต่งรถ ให้สวยโดนใจ

by yanyon 15 ตุลาคม 2022
written by yanyon

สำหรับคนที่รักรถการ แต่งรถ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากที่จะทำมากที่สุด เพื่อให้รถที่เรารัก เป็นรถที่ดูดี มีสไตล์ตามแบบของเราเอง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมให้รถมีประสิทธิภาพในการใช้งานตามแบบของเรามากยิ่งขึ้นด้วย

เคล็ดลับ แต่งรถ

ในวันนี้เราจึงนำ 6 เคล็ดลับ แต่งรถ แบบง่าย ๆ ที่จะช่วยให้รถของเรา เก๋ไก๋ โดนใจมากขึ้นมาแบ่งปัน 

  1. หาต้นแบบ

  ในยุคปัจจุบันการหา Reference ถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยเติมเต็มจินตนาการและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในการ แต่งรถ ของเราได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รถของเรามีเอกลักษณ์ ดุเท่ คูล มีสไตล์ตามแบบของเราด้วย

  1. กำหนดงบประมาณ

  อีกหนึ่ง เคล็ดลับแต่งรถ ที่สำคัญที่จะช่วยให้รถของเราออกมาดูดีมีสไตล์ตามแบบของเรา จำเป็นต้องกำหนดงบประมาณเพื่อให้เราสามารถเลือกอุปกรณ์และจุดที่จะแต่งได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งการกำหนดงบประมาณยังจะช่วยให้เราสามารถมองภาพรวมของรถได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

  1. คิดไม่ออกเปลี่ยน แม็กซ์ ใหม่ง่ายที่สุด

  แน่นอนว่าการแต่งตัวรถหรือเครื่องยนต์ในยุคปัจจุบันมีอุปกรณ์เสริมมากมายหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกสรร ซึ่งช่วยเพิ่มความยากต่อการตัดสินใจ สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยให้การแต่งส่วนต่าง ๆ ไปในทิศทางเดียวกันควรเริ่มต้นจากการเลือก แม็กซ์  ก่อนจากนั้นค่อยต่อยอดไปยังจุดต่าง ๆ ตามตรีมของแม็กซ์ที่เราเลือกไว้

  1. เลือกสติกเกอร์เพื่อสร้างเอกลักษณ์

   เพื่อให้รถของเรามีเอกลักษณ์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร การติดสติกเกอร์ก็ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดี อีกทั้งในยุคปัจจุบันสติกเกอร์ก็มีให้เราได้เลือกหลากหลายทั้งยังสามารถออกแบบได้เองตามที่ต้องการ ซึ่งราคาของสติกเกอร์แต่ละแบบก็จะขึ้นอยู่กับเกรดและลายที่เราเลือก

  1. เปลี่ยนเซตเบาะนั่งภายใน

  จุดเปลี่ยนที่สำคัญในการปรับรูปแบบรถอีกหนึ่งเรื่องคือ การเลือกเปลี่ยนเซตเบาะ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ภายในดูสวยแล้ว ยังช่วยให้การขับขี่ของเราสบายและขับได้นานมากยิ่งขึ้นด้วย 

  1. ซื้อชุดแต่งทั้งคัน

  สำหรับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากไม่ชอบออกแบบหรือไม่มีสไตล์ที่คิดไว้ หนึ่งในสิ่งที่ช่วยได้อย่างดีคือการเลือกซื้อชุดแต่งแบบเต็มคันที่นักออกแบบรถได้ดีไซน์มาให้เราแล้ว ซึ่งวิธีนี้มีจุดเด่นคือง่ายไม่ต้องเสียเวลาหาของตกแต่งทีละชิ้น แต่ข้อเสียคือ มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นหากใครเลือกวิธีนี้ก็จำเป็นจัดสรรงบประมาณไว้ให้ดี
  สำหรับ เคล็ดลับแต่งรถ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่จะช่วยให้เราสามารถ แต่งรถ ได้ตามแบบที่เราต้องการโดยใช้งบประมาณที่ไม่สูงเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นการเรื่องอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับตัวรถและคุ้มค่าตามงบประมาณที่เรากำหนด ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราต้องคำนึงอยู่เสมอ เพื่อให้รถของเราใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นภาระกับเรามากเกินไป

อ่านเพิ่มเติม: ทะเบียนรถ ต้องห้าม

15 ตุลาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

5 เทคนิค ควรรู้ เลือก แบตเตอรี่รถยนต์ อย่างไร ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

by yanyon 22 กันยายน 2022
written by yanyon
เลือก แบตเตอรี่รถยนต์

ปฏิเสธไม่ได้ที่ในยุคปัจจุบัน แบตเตอรี่รถยนต์ ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยทำให้รถของเราขับขี่ได้อย่างราบรื่นตลอดเส้นทาง เนื่องจากแบตเตอรี่ถือเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับการสตาร์ทรถ ไปจนถึงการใช้ไฟและส่วนอื่น ๆ

ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำ เทคนิคเลือก แบตเตอรี่รถยนต์อย่างไรให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  1. เทคนิค เลือกแบตเตอรี่ตามประเภทการใช้งาน

ในยุคปัจจุบันแบตเตอรี่สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทดังนี้

  • แบตเตอรี่รถยนต์ แบบเปียก เป็นหนึ่งในแบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพง อีกทั้งยังสะดวกต่อการใช้งาน ทว่าต้องมีความรู้ในเรื่องของการดูแลแบตเตอรี่พอประมาณ
  • แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาสูงกว่าแบตเตอรี่แบบเปียกเล็กน้อย เนื่องจากแบตเตอรี่ไม่ต้องชาร์จไฟก่อนใช้งานเพียงแต่ต้องสังเกตน้ำกลั่นทุก ๆ 3 เดือน 
  • แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแล อีกทั้งอายุการใช้งานก็ค่อนข้างยาวกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ราคาก็ค่อนข้างสูง
  1. ประกันแบตเตอรี่

  ในการเลือกซื้อแบตเตอรี่ ควรตรวจสอบเรื่องอายุประกันด้วย เผื่อในกรณีที่แบตเตอรี่มีปัญหา หากมีประกันก็จะช่วยให้เรามั่นใจเรื่องการใช้งานได้มากขึ้น โดยอายุประกันควรอยู่ที่ 3 เดือนถึง 1 ปี 

  1. ดูวันผลิตแบตเตอรี่ก่อนซื้อ

  อายุการใช้งานของแบตเตอรี่คือเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นการดูวันผลิตของแบตเตอรี่จึงไม่ควรมองข้ามและควรเลือกวันผลิตที่มีอายุไม่เกิน 6 ถึง 12 เดือน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

  1. เลือกขนาดของแบตเตอรี่ให้เหมาะกับที่เราใช้งาน

  ขนาดของแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 45 ถึง 100 แอมป์ ซึ่งหากเราเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุไฟสูงเกินไป ก็จะส่งผลทำให้กลไกภายในรถยนต์เกิดความเสียหาย ตลอดจนไม่สามารถใช้งานได้ เช่น รถยนต์จากญี่ปุ่น เครื่องยนต์ขนาด 1300 cc ควรใช้แบตเตอรี่ขนาด 45 ถึง 60 แอมป์ ทั้งนี้หากเราไม่มั่นใจในเรื่องขนาดแบตเตอรี่ที่เหมาะสม สามารถดูได้ที่คู่มือรถยนต์ หรือตัวเครื่องยนต์ได้

  1. ขั้วแบตเตอรี่รถยนต์

  การเลือกซื้อแบตเตอรี่ทุกครั้งเราควรตรวจเช็คขั้วแบตเตอรี่เดิมของเราก่อน ว่าขั้วแบตเตอรี่ ±  อยู่ข้างซ้ายหรือข้างขวา ขนาดใหญ่หรือเล็ก ตลอดจนเป็นแบบขั้วจมหรือลอย ซึ่งเราจำเป็นต้องจดหรือถ่ายรูปเพื่อใช้ในการเลือกซื้อ
  สำหรับ เทคนิค ในการเรื่อง แบตเตอรี่รถยนต์ ที่กล่าวมาทั้งต้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาหรือต้องเลือกซื้อแบตเตอรี่ ก็อย่าลืมนำเอาวิธีทั้ง 5 ข้อนี้ไปปรับใช้ เพื่อให้เราสามารถเลือกแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนเหมาะกับการใช้งานที่สุด แต่สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในการเลือกซื้อก็สามารถถ่ายรูปแบตเตอรี่ตัวเก่าที่เราใช้ พร้อมทั้งจดรุ่นรถที่เราใช้งานอยู่เพื่อนำไปสอบถามกับพนักงานได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม: เคลือบแก้ว รถยนต์

22 กันยายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

สาระน่ารู้! เคลือบแก้ว รถยนต์ คืออะไร ทำไมถึงต้องทำ?

by yanyon 20 กันยายน 2022
written by yanyon
เคลือบแก้ว รถยนต์

ในปีที่ผ่านมาการ เคลือบแก้วรถยนต์ กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ได้รับความนิยมและได้รับการพูดถึงจากคนในวงการบันเทิงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งวิธีการดูแลรถเช่นนี้ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนรักรถเลือกที่จะทำมากที่สุด สำหรับคนที่อยากรู้ว่าการเคลือบรถแบบที่กล่าวมานี้ คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

วันนี้เรามี คำตอบการ เคลือบแก้ว รถยนต์ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนรักรถ

  1. เคลือบแก้ว คืออะไร

  การเคลือบ รถยนต์ ประเภทนี้คือการนำน้ำยาเคลือบชนิดแข็งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ มาเคลือบผิวรถไว้ โดยคุณสมบัติของสารเคลือบชนิดนี้ เป็นสารชนิดแข็งตัวทันทีที่สัมผัสกับอากาศ ดังนั้นทันทีที่สารชนิดนี้แข็งตัวก็จะกลายเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ คล้ายแก้วห่อหุ้มตัวรถไว้ เพื่อป้องกันสีรถจากแสงแดด รอยขีดข่วน ให้ดูใหม่นานมากยิ่งขึ้น  ซึ่งในยุคปัจจุบันระดับความแข็งของตัวเคลือบชนิดนี้จะอยู่ที่ 1H ถึง 9H ซึ่งระดับความแข็งของตัวเคลือบจะส่งผลต่อราคาเคลือบรถแต่ละประเภทด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วร้านเคลือบรถทั่วไปจะใช้ระดับความแข็งอยู่ที่ 7H ซึ่งเป็นความแข็งที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้ดีที่สุด

  1. ข้อดีของการเคลือบรถแบบแก้ว

1. ช่วยป้องกันรถไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะรถสีขาวและสีดำ ซึ่งง่ายต่อการสังเกตเห็น

2. ช่วยรักษาสีรถให้ดูสวยใหม่และมันวาวอยู่เสมอ

3. ป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากแสงยูวี เช่น ในกรณีที่เจ้าของรถต้องจอดรถไว้ในพื้นที่กลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน ซึ่งสารเคลือบรถประเภทนี้จะช่วยถนอมสีรถให้ชไม่ซีดจางตามกาลเวลา

4. ช่วยป้องกันคาบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น มูลนก ยางมะตอย คราบหยดน้ำต่าง ๆ โดยหลังจากทำการเคลือบเสร็จเจ้าของรถสามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดได้ทันทีโดยไม่ต้องขัดแรง

  1. ข้อเสีย

  สิ่งเดียวที่เป็นข้อเสียของการเคลือบรถแบบนี้คือราคาสูง โดยราคาจะอยู่ที่ 3 หมื่น ถึง 1 แสนบาทต่อคัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแสนคุ้มค่า เพราะตัวเคลือบมีความทนทาน และมีอายุการใช้งานนานกว่าการเคลือบชนิดอื่น ๆ 

เคลือบแก้ว รถยนต์
  1. เคลือบแบบแท้กับเคลือบแบบผสมต่างกันอย่างไร

  ด้วยเหตุที่การเคลือบแท้ใช้สาร Silica เป็นส่วนประกอบหลัก ดังนั้นความคงทน และอายุการเกาะติดกับผิวรถจึงยาวนานกว่าการเคลือบแบบผสม ทว่าการเคลือบแบบผสมแม้อายุการใช้งานจะสั้นกว่าเล็กน้อย แต่ราคาที่ต้องจ่ายก็ถูกกว่ามาก 

  ดังที่กล่าวมาข้างต้นคุณสมบัติในการ เคลือบแก้วรถยนต์ มีประโยชน์ต่อสีรถค่อนข้างมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาสภาพรถให้ดูใหม่อยู่เสมอแล้ว ยังสามารถปกป้องสีรถจากเหตุต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้การตัดสินใจที่จะทำก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคลด้วย และเพื่อให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดี การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนเคลือบเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้การเคลือบรถของเรามีคุณภาพและได้รับการบริการที่ดีที่สุดด้วย

อ่านเพิ่มเติม: ทิศออกรถ และทิศต้องห้าม

20 กันยายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

คนรักรถต้องรู้…. เคลือบสี กับ เคลือบแก้ว ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนถึงจะดี

by yanyon 10 กันยายน 2022
written by yanyon
เคลือบสี กับ เคลือบแก้ว

สำหรับคนรักรถสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการดูแลเรื่องของความเงางามของตัวรถ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในการดูแลรักษารถยนต์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากขึ้น รวมไปถึงการ เคลือบสี และการ เคลือบแก้ว ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

สำหรับความแตกต่างและความเหมาะสมระหว่างเคลือบสี กับ เคลือบแก้วเรื่องการใช้งานจะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกัน

  1. เคลือบสี รถยนต์คืออะไร

  การขัดแว็กซ์ (wax) หรือการเคลือบรถด้วยสี เป็นหนึ่งในวิธีที่คนรักรถเลือกทำมากที่สุด เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูง อีกทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดรอยน้ำบนผิวรถได้เช่นกัน แต่อายุการใช้งานของการเคลือบประเภทนี้จะสั้นกว่าการเคลือบแบบแก้ว เนื่องจากอายุการใช้งานจะอยู่ได้แค่ 1-3 เดือนเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นในปัจจุบันการน้ำยาเคลือบประเภทนี้ก็มีวางจำหน่ายมากมายทั้งยังสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านอีกด้วย

  1. เคลือบแก้ว รถยนต์คืออะไร

  การเคลือบรถยนต์ประเภทนี้เปรียบเสมือนการใช้แผ่นฟิล์มมาคุมรถไว้ทั้งคัน ซึ่งสารที่ใช้เคลือบจะทำมาจาก Silica และเมื่อสารแข็งตัวรถก็จะมีความเงางามมากยิ่งขึ้น โดยร้านเคลือบจะใช้ความแข็งอยู่ที่ระดับ 7-9 เป็นค่าที่ให้ความแข็งสูงสุดและเป็นค่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานและป้องกันรอยขีดข่วนได้ ดี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง

  1. การเตรียมรถก่อนเคลือบ

  ไม่ว่าเราจะตัดสินใจเคลือบด้วยวิธีใด เราก็ต้องเตรียมรถก่อนเข้ากระบวนเคลือบการต่าง ๆ  ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือ ทำความสะอาดพื้นผิวของตัวรถให้สะอาด เพื่อให้สารเคลือบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

เคลือบสี กับ เคลือบแก้ว
  1. ควรเลือกเคลือบรถยนต์แบบไหนจึงจะเหมาะกับเรา
  • เคลือบด้วยสี: สำหรับการใช้สีเคลือบเหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลรถในเบื้องต้น ซึ่งการเคลือบเช่นนี้สามารถป้องกันรอยน้ำ ตลอดจนรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ในราคาไม่แพง แต่อายุการใช้งานจะสั้นกว่าการเคลือบแบบแก้วเล็กน้อย
  • เคลือบด้วยแก้ว: สำหรับการเคลือบประเภทนี้ค่อนข้างใช้เวลานานและมีราคาค่อนข้างสูง จึงเหมาะมากสำหรับรถใหม่ เพื่อให้สีรถยังคงดูสวยงาม มันวาว และช่วยให้ตัวรถมีรอยขีดข่วนน้อยลง สำหรับคนที่มีงบประมาณ การเคลือบด้วยแก้วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

  การ เคลือบแก้ว รถยนต์และการ เคลือบสี รถยนต์ ในยุคปัจจุบันมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งช่วยให้รถของเราได้รับการปกป้องมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ความเหมาะสมในการเลือกทำทั้งเคลือบแบบแก้วและเคลือบด้วยสี ก็อยู่ที่งบประมาณ ตลอดจนความชื่นชอบของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ก็ยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีก เช่นการเคลือบแว็กซ์ การเคลือบซิลิโคน ที่สามารถป้องกันรอยขีดควรได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม: แบตเตอรี่รถยนต์ เสื่อมสภาพ

10 กันยายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
บทความแนะนำแต่งรถ

เทคนิคการเลือก ฟิล์มรถยนต์ อย่างไรให้สุดปัง และเข้ากับรถของคุณ

by yanyon 4 สิงหาคม 2022
written by yanyon
เลือก ฟิล์มรถยนต์

ฟิล์มรถยนต์นั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีรถยนต์ เพราะฟิล์มรถยนต์จะเป็นตัวป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อตัวเรา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ ไม่ให้โดนรังสี UV ทำร้าย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก เทคนิคการเลือก ฟิล์มรถยนต์ อย่างไรให้สุดปัง และเข้ากับรถของคุณ

เทคนิคการเลือก ฟิล์มรถยนต์ อย่างไรให้สุดปัง และเข้ากับรถของคุณ

1. เลือกตามเงินในกระเป๋า

1.1 ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ทั่วไปราคาถูก ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีตั้งแต่ราคาหลักพันขึ้นไป จนถึงหลักพันกลาง ๆ ซึ่งฟิล์มติดรถยนต์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นฟิล์มดำธรรมดา สามารถป้องกันรังสี UV ได้เป็นบางส่วน แต่อาจจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณภาพมีตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับปานกลาง

1.2 ฟิล์มรถยนต์ ระดับมาตรฐาน โดยปกติแล้วราคาจะอยู่ที่กลาง ๆ มีตั้งแต่ราคาหลักพัน ไปจนถึงราคาเกือบหมื่น มักจะเป็นที่นิยมมากที่สุด ส่วนใหญ่แล้วกันรังสี UV ได้มากกว่า 99%

เลือก ฟิล์มรถยนต์

1.3 ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ระดับพรีเมียม สำหรับอันนี้ราคาค่อนข้างสูง นอกจากจะป้องกันรังสี UV แล้วยังสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดได้อีกด้วย มีตั้งแต่ราคาระดับหลักหมื่นขึ้นไป

2. เลือกตามชนิดของฟิล์มกรองแสงโดยการดูจากเทคโนโลยีการผลิต

2.1 ฟิล์มรถยนต์ ด้วยเทคโนโลยีย้อมสี Deep Dye Film เนื้อฟิล์มมักจะเป็นสีดำทึบ แล้วปิดท้ายด้วยการเคลือบสารป้องกันรังสี UV กันแสงได้ดีแต่ความร้อนยังไม่ดีเท่าที่ควร

2.2 การผลิตฟิล์มด้วยเทคโนโลยี Multi layers Sputtering Film ใช้วิธีการซ้อนทับแผ่นสารป้องกันความร้อนเป็นชั้น ๆ หรือว่าเรียกกันว่าฟิล์มปรอทนั่นเอง

2.3 ฟิล์มกรองแสงเทคโนโลยี Nano IR หรือฟิล์มนาโนเซรามิก สามารถป้องกันความร้อนได้ดีกว่าสูงถึง 99% เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตอนนี้

3. เลือกจากวัสดุที่ใช้ในการผลิต

3.1 ฟิล์มปรอท เป็นฟิล์มที่เคลือบด้วยโลหะหรือว่าไอโลหะต่าง ๆ ดูเนื้อฟิล์มจะสามารถสะท้อนเหมือนกระจก ลดความร้อนในลดได้ประมาณ 35-90% แต่มีความมันวาว อาจส่งผลต่อการสะท้อนแสงยังสายตาผู้อื่น

3.2 ฟิล์มอินฟราเรด มีคุณสมบัติในการตัดรังสีอินฟราเรดมาใช้ในการเคลือบแผ่นฟิล์ม

3.3 ฟิล์มนิรภัย นอกจากจะป้องกันรังสี UV ยังมีความหนาถึง 4 มม. ป้องกันการทุบกระแทกจากอุบัติเหตุ

3.4 ฟิล์มใสประเภทนาโน เป็นฟิล์มใสที่ไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ แต่สามารถกันความร้อนได้มากถึง 70%

สิ่งสำคัญในการพิจารณาการติด ฟิล์มรถยนต์ คือ การรับประกันของฟิล์ม และต้องดูว่าฟิล์มคุณภาพนั้น สามารถอยู่ได้มากเกิน 5-7 ปีหรือไม่ และที่สำคัญอย่าลืมศึกษาเงื่อนไขของแต่ละบริษัทให้ดี เพื่อให้เราได้ฟิล์มที่มีคุณภาพ สามารถป้องกันรังสี UV คุ้มค่ากับการลงทุน

อ่านเพิ่มเติม: หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง

4 สิงหาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ไฟซีนอน รถยนต์ พร้อมวิธีการเลือกว่าแท้ หรือเทียม

by yanyon 30 กรกฎาคม 2022
written by yanyon
ไฟซีนอน รถยนต์

ในวงการรถยนต์ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า หลอดไฟซีนอน ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมในระดับ ของผู้ใช้หลาย ๆ กลุ่ม เนื่องจากมีการให้ความสว่าง และคนส่วนใหญ่ยอมรับว่าสามารถทำให้มองเห็นเส้นทางในเวลากลางคืนได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี มีคนจำนวนมากที่มองว่า ไฟซีนอน ให้ความสว่างที่มากจนเกินไป ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ถนนหลายๆคน ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ไฟซีนอน รถยนต์ พร้อมวิธีการเลือกว่าแท้ หรือเทียม

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ไฟซีนอน รถยนต์ พร้อมวิธีการเลือกว่าแท้ หรือเทียม

1. หลอด ไฟซีนอน เป็นหลอดไฟที่สามารถให้ความสว่างได้มากถึง 3 เท่า สว่างมากกว่าหลอดไฟปกติของรถยนต์ทั่วไป ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นดีขึ้น ข้อดีคือช่วยลดความเครียดในการขับขี่

2. หลอด ไฟซีนอน เป็นชุดระบบ HID โดย ทำมาจาก หลอดแก้วคริสตัล ความสามารถคือตัดแสง Ultra Violet หรือว่าแสง UV ได้ดี และยังสามารถใช้งานได้นานถึง 3,000 ชั่วโมง

3. ระบบของ ไฟซีนอน จะมีกระแสไฟฟ้าหมื่นโวลต์ ถูกสร้างขึ้นด้วยกล่องบัลลาสต์ในช่วงสั้น ๆ เพื่อจุดหลอดให้สว่าง มีลักษณะคล้ายกับหลอดนีออนที่บ้าน ไม่มีไส้ และต้องมีตัวแปลงไฟฟ้าหรือบัลลาสต์

ไฟซีนอน รถยนต์

4. ความโดดเด่นคือ มีความที่มีแสงสว่างสีขาว และมีราคาแพง ทำให้มีการเลียนแบบจากผู้ผลิตหลายราย โดยเรียกว่าหลอดฮาโลเจน แบบพิเศษ มีความสว่างสูงกว่า หรือย้อมสีตัวเปลือกหลอดให้มีแสงไม่อมเหลือง แต่จะออกสีฟ้าอมม่วง

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นหลอด ไฟซีนอน แท้หรือเทียม

1. ตัวหลอดเป็นรูปทรงที่คุ้นเคยหรือไม่ ถ้าหากมีไส้เห็นชัดเจนเรียกว่าหลอดฮาโลเจน พอหลอด ไฟซีนอน จะมีความซับซ้อนกว่า บรรจุก๊าซโล่ง ๆ

2. หลอดไฟซีนอนต้องมีกล่องบัลลาสต์แปลงไฟ ลักษณะมีขนาดเท่ากับฝ่ามือครึ่ง ประมาณ 1 นิ้ว หากต่อเข้ากับหลอดไฟบ้าน 12 โวลต์โดยตรง แสดงว่าเป็นหลอดฮาโลเจน

3. แสงไฟที่มีความแตกต่าง ถ้าเป็นหลอดไฟซีนอน จะมีลักษณะขาวสว่าง ดูบริสุทธิ์ แต่ถ้าเป็นหลอดฮาโลเจน จะมีลักษณะสีฟ้าอมเหลือง หรือสีฟ้าอมน้ำเงิน ไม่ขาวสว่าง สังเกตได้เมื่อเปิดรถคันใดวิ่งบนท้องถนนจะสังเกตเห็นง่าย
ในความเป็นจริงแล้วระบบหลอด ไฟซีนอน ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดในยุคนี้ และในอนาคตอาจจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงมีการปรับเปลี่ยนระบบให้ดีขึ้น สำหรับบางท่านอาจจะมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน หรือบางท่านอาจจะมองว่าสะดวกกับการใช้งานในรูปแบบของหลอดไฟดังกล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ใช้งานสะดวกจะใช้งานในรูปแบบใด สามารถศึกษาข้อดีข้อเสียของการใช้งานดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตนเองด้วย

อ่านเพิ่มเติม: วัดดัง เจิมรถ

30 กรกฎาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

ชนิดของ ค้ำโช๊ครถยนต์ และประโยชน์ ที่ไม่อาจมองข้าม

by yanyon 12 กรกฎาคม 2022
written by yanyon
ค้ำโช๊ค

อุปกรณ์แต่งรถนั้นมีหลากหลายประเภท และบางอย่างเป็นอุปกรณ์แต่งรถที่มีประโยชน์กับตัวรถด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับสายแต่งรถทั้งหลาย เชื่อกันว่าจะต้องรู้จักอุปกรณ์ที่เรียกกัน ค้ำโช๊ค อย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้รถมีความหนึบ และสามารถยึดเกาะถนนได้ดี ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ชนิดของ ค้ำ โช๊ค และประโยชน์ ที่ไม่อาจมองข้าม

สิ่งที่คุณจะต้องรู้ก่อนติดตั้ง ค้ำโช๊ค 

1. ชนิดของ ค้ำ โช๊ค 

ค้ำ โช๊ค เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าไทร์บาร์ ทำหน้าที่ในการยึดระหว่างหัวเบ้าโช๊คของตัวถังรถยนต์ โดยมีประโยชน์หรือวัตถุประสงค์เพื่อลดการบิดตัวของถังรถยนต์ เชื่อกันว่าติดตั้งแล้วจะทำให้การขับขี่นุ่มนวล และการเกาะถนนนั้นดีขึ้น โดยปกติแล้วมักจะนิยมกันในวงการรถแข่ง แต่ในปัจจุบันก็มีการนำมาติดตั้งในรถยนต์ทั่วไปด้วย 

1.1 การติดตั้งแบบตายตัว วิธีการติดตั้งแบบตายตัวคือมีการติดน็อต ขันแบบถาวร จะช่วยให้เสริมสร้างความแข็งแรงมากขึ้น 

1.2 ชนิดแบบติดหน้าแป้นยึดเบ้าโช๊ค อันนี้สามารถถอดออกมาได้ สามารถปรับโครงสร้างได้ 

D:\ส่วนตัว\บทความ\จ้างงาน\งานที่ 12 เกี่ยวกับรถ เสนอชื่อ ผ่าน 50 บท\HH0405T 01 - 30\1 - Copy (9)\18.png

2. วัสดุที่ใช้ในการผลิต ค้ำ โช๊ค 

โดยปกติแล้วมักจะนิยมใช้เหล็กเกรด A ที่มีคุณภาพค่อนข้างเหนียว และยืดหยุ่นจำพวกโครโมลี่ ซึ่งจะมีความแข็งแรงแต่ว่าก็มีน้ำหนักค่อนข้างหนัก และมีความกระด้างมากกว่า วัสดุอีกประเภทหนึ่งที่นิยมใช้คือประเภทอะลูมิเนียม ที่มีน้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่นสูง ในขณะเดียวกันก็ให้ความแข็งแรงที่ไม่ได้แข็งแรงมากนัก แล้ววัสดุตัวสุดท้ายที่นิยมใช้คือ Thaitanium ซึ่งมีน้ำหนักเบา มีความแข็งแรงสูง แต่ราคาก็สูงเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงมีหลาย ๆคนที่นิยมใช้ ทั้งแบบเหล็ก และแบบอะลูมิเนียมร่วมกัน 

3. ประโยชน์ของ ค้ำ โช๊ค 

3.1 เพราะเมื่อตัวถังมีความแข็งแรงแล้ว การบิดตัวก็จะมีน้อยลง ทำให้สามารถวิ่งรถได้เร็วขึ้น ไม่ให้เครื่องยนต์ส่าย 

3.2 ลดความเสียหายของตัวถังบริเวณจุดติดตั้ง เนื่องจากตัว ค้ำ โช๊ค จะช่วยในการซับแรงกระแทกต่าง ๆของตัวถัง 

3.3 ช่วยในการลดแรงกระแทกกับชุดช่วงล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถมีการตกหลุมกระแทกอย่างรุนแรง ค้ำ โช๊ค จะช่วยในการกระจายแรงกระแทกทำให้อายุการใช้งานของโช๊คยาวนานขึ้น 

3.4 เสริมสร้างความมั่นใจในการขับขี่ ในย่านที่เป็นความเร็วสูง 
การจะติด ค้ำ โช๊ค หรือไม่นั้น ไม่ได้มีกฎหมายบังคับแต่อย่างใด ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจะตอบว่าติดแล้วดีขึ้นหรือไม่ ก็ตอบเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ยาก ผู้ใช้ส่วนใหญ่อาจจะให้คำตอบก็ดีขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็คงต้องลองติดเอง ถึงจะสามารถตอบได้ว่าตอบโจทย์กับผู้ใช้งานมากน้อยแค่ไหน

อ่านเพิ่มเติม: กฎหมายจราจร

12 กรกฎาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

แต่ง ท่อเฮดเดอร์ แล้วทำให้เครื่องแรง จริงหรือไม่ ดีอย่างไร ?

by yanyon 4 กรกฎาคม 2022
written by yanyon
ท่อเฮดเดอร์

ท่อเฮดเดอร์ สำหรับหลาย ๆ คนที่แต่งรถน่าจะรู้จัก ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งในระบบรถยนต์ มีไว้สำหรับระบายไอเสีย กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ขอเชื่อกันว่าสามารถเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ได้ แต่มันจะมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่สูงลิบลิ่ว ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงอยากจะทำความรู้จักก่อนว่า ท่อเฮนเดอร์คืออะไร มีความ จำเป็นต้องติดตั้งหรือไม่ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก แต่งเฮดเดอร์ แล้วทำให้เครื่องแรง จริงหรือไม่ ดีอย่างไร ?

แต่ง ท่อเฮดเดอร์ แล้วทำให้เครื่องแรง จริงหรือไม่ ดีอย่างไร ?

1. ท่อ เฮดเดอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในเรื่องระบบไอเสีย 

ทำให้การระบายไอเสียดีขึ้น ทำหน้าที่ขายลูกสูบเลื่อนขึ้นวาล์วไอเสียเพื่อเปิดระบบระบายไอเสียออกจากเครื่องยนต์ 

ท่อเฮดเดอร์

2. ลักษณะของ ท่อ เฮดเดอร์ ที่ดี 

2.1 หน้าแปลน จะต้องมีการออกแบบมาเพื่อให้น็อตสามารถขันได้ตรงรุ่นรถยนต์ หากไม่สามารถทำได้อาจจะมีผลต่อการติดตั้งได้ 

2.2 ท่อไอเสียส่วนแรก ลักษณะของรอยโค้งของท่อไอเสียส่วนแรก จะต้องไม่มีรอยเชื่อม รอยปะ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดอาการแตกร้าว ส่งผลให้เกิดแรงเหวี่ยงต่อเครื่องยนต์ได้ 

2.3 จุดรวมท่อไอเสีย ในส่วนนี้ลักษณะจะต้องมีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะรองรับระบบไอเสียที่จะมารวมกันในส่วนของท่อแรก เพื่อไม่ให้เกิดการอั้น หรือการสร้าง Pressure ที่จุดรวมท่อไอเสีย 

3. ข้อดีของการเปลี่ยน ท่อ เฮดเดอร์

3.1 เนื่องจากการออกแบบในรถยนต์บางรุ่น ทำให้มีขนาดของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งท่อไอเสีย ในรูปแบบท่อไอเสียชุดเดียวนั้น ส่งผลทำให้รถยนต์ไม่สามารถขับขี่ในสมรรถนะที่สูงสุดได้ เนื่องจากมีระบบท่อไอเสียแบบชุดเดียว การต่อ ท่อ เฮดเดอร์ เข้าไป ก็จะทำให้ระบบการขับขี่สามารถทำงานได้อย่างสูงสุด 

3.2 ท่อไอเสียที่ออกแบบมาตามโรงผลิตรถยนต์ทั่วไป ไม่มีประสิทธิภาพ เท่ากับท่อไอเสียเฮนเดอร์ ที่เป็นรถแต่ง 

4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายระบบไอเสีย 

แน่นอนว่าข้อดีของระบบท่อไอเสียแบบเฮนเดอร์ จะช่วยให้เครื่องยนต์ของเราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายระบบไอเสียได้ดี ส่วนจะมีผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชุดอุปกรณ์ตกแต่ง แต่ที่แน่ ๆ คือการระบายไอเสียออกจากเครื่องยนต์ จะสามารถทำได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ยังป้องกันการไหลเวียนแรงดันย้อนกลับ ในกรณีที่การระบายไอเสียออกไม่หมดด้วย ทำให้การจุดระเบิดและการเผาไหม้ลดลง กำลังของเครื่องยนต์ก็จะลดลงตามไปด้วยเพราะมีออกซิเจนน้อย แต่ข้อเสียคือจะทำให้มีเสียงดัง อาจจะเป็นปัญหากับผู้ใช้รถบางคน และที่สำคัญคือมีราคาค่อนข้างสูง มีความยุ่งยากในการติดตั้ง 
จะเห็นได้ว่า การติดตั้ง ท่อ เฮดเดอร์ นั้น อยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ส่วนข้อดีหรือประโยชน์ต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลอีกว่า คิดว่ามันมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน โดยปกติแล้วถ้าเป็นรถใหม่ ไม่มีความจำเป็นต้องปิดท่อดังกล่าวก็ได้เพราะรถยังใหม่อยู่

อ่านเพิ่มเติม: การเลือกดอกยางรถยนต์

4 กรกฎาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
แต่งรถ

ชนิดของ ป้ายทะเบียนรถ มีอะไรบ้าง แต่ละประเภทมีการใช้งานอย่างไร

by yanyon 30 มิถุนายน 2022
written by yanyon
ป้ายทะเบียนรถ

เคยหรือไม่ เมื่อขับรถไปตามท้องถนน หลายๆท่านอาจจะสังเกตเห็นว่า รถยนต์แต่ละคัน แต่ละประเภท อาจจะมีการติดแผ่น ป้ายทะเบียนรถ ที่มีหลากหลายสีสัน ซึ่งนั่นหมายความว่า ในประเทศไทยของเรานั้น มีแผ่นป้ายทะเบียน รถ ที่หลากหลายประเภทด้วย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก ชนิดของ ป้ายทะเบียน รถ มีอะไรบ้าง แต่ละประเภทการใช้งานอย่างไร 

ชนิดของ ป้ายทะเบียนรถ มีอะไรบ้าง แต่ละประเภทการใช้งานอย่างไร

1. แผ่นป้ายทะเบียนสีขาว และมีตัวอักษรสีดำ ป้ายทะเบียน รถ

ที่มีลักษณะดังกล่าวมักจะพบเห็นได้ทั่วไป แสดงให้เห็นถึง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ได้แก่ รถเก๋ง และรถยนต์ทั่วไป ซึ่งแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว ไม่สามารถนำรถดังกล่าว วิ่งรับส่งผู้โดยสารและมีการคิดเงินค่าโดยสารได้ 

2. ป้ายสีขาว และมีตัวอักษรสีเขียว

สำหรับ ป้ายทะเบียน รถ ที่มีลักษณะแผ่นป้ายทะเบียนสีขาว และมีตัวอักษรสีเขียว จะพบเห็นในรถบรรทุกส่วนบุคคล ได้แก่ รถกระบะ และรถบรรทุกขนาดเล็ก แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปเพราะ ในรถกระบะบางคันนั้น ที่มีแผ่นป้ายทะเบียนตัวหนังสือสีดำ หมายความว่าได้ทำการจดทะเบียนเป็นรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล แต่ถ้ามีการนำมาบรรทุก จะถือว่าผิดกฎหมายทันที 

ป้ายทะเบียนรถ

3. ป้ายสีขาว และมีตัวอักษรสีน้ำเงิน 

สำหรับแผ่น ป้ายทะเบียน รถ รถนี้ จะพบในรถยนต์ส่วนบุคคล ที่มีที่นั่งมากกว่า 7 ที่นั่ง อันได้แก่ รถตู้ 

4. ป้ายทะเบียนที่มีพื้นหลังเป็นลายกราฟิก หรือแผ่นป้ายทะเบียนประมูล 

ซึ่งลักษณะพื้นหลังของป้ายทะเบียนจะมีลักษณะพิเศษ เรียกกันทั่วไปว่าแผ่นป้ายทะเบียนประมูล ฉันจะเปิดประมูลโดยกรมขนส่งทางบก มีจำนวนทั้งสิ้น 301 หมายเลข โดยปกติแล้วมักจะนำมาประมูลในรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง 

5. ป้ายสีแดง

ป้ายทะเบียน รถ ออกให้ชั่วคราวสำหรับรถยนต์ที่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนตามกฎหมาย อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของกรมขนส่งทางบก 

6. ป้ายสีเหลือง และมีตัวอักษรสีดำ

สามารถพบเห็นได้ในรถจักรยานยนต์ และรถยนต์รับจ้าง แต่ต้องบรรจุผู้โดยสารได้ไม่เกิน 7 คน 

7. ป้ายสีเหลือง และมีตัวอักษรสีเขียว

ได้แก่รถตุ๊กๆ หรือรถสามล้อรับจ้าง 

8. ป้ายสีเหลือง และมีตัวอักษรสีแดง

คือรถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด 

9. ป้ายสีเหลืองและมีตัวอักษรสีน้ำเงิน

คือรถยนต์เล็ก 4 ล้อรับจ้าง เช่นรถกะป้อ 

10. ป้ายสีเขียวและมีตัวอักษรสีขาวหรือสีดำ

จะเป็นรถให้เช่าเช่นรถลีมูซีนบริเวณสนามบิน 

11. ป้ายสีส้มและมีตัวอักษรสีดำ

จะเป็นจำพวกรถพ่วง รถที่ใช้งานด้านการเกษตรและรถแทรกเตอร์ 

12. ป้ายสีขาวไม่สะท้อนแสง และมีตัวอักษรสีดำ

คือรถยนต์ของผู้แทนทางการทูต ซึ่งมักจะขึ้นต้นด้วยตัว n แล้วตามด้วยรหัสประเทศ ขีดแล้วตามด้วยทะเบียนรถ 

13. ป้ายสีฟ้าไม่สะท้อนแสงตัวอักษรสีขาว

คือหน่วยงานพิเศษในสถานทูต หรือองค์กรระหว่างประเทศ 
ป้ายทะเบียน รถ เป็นสิ่งสำคัญที่ระบุตัวตนรถยนต์ อักษรทั้งหลายรวมถึงตัวเลขนั้น ได้มีการแบ่งแยกประเภทอย่างชัดเจน ตามรูปแบบของขนส่งกรมขนส่งทาง เพื่อให้ง่ายต่อการเสียภาษี และแยกแยะประเภทของรถยนต์ อย่าลืมชำระภาษีประจำปีกันทุกคนด้วย

อ่านเพิ่มเติม: Modify เบรกรถ

30 มิถุนายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
  • 1
  • 2
  • 3

ติดตามเรา

Facebook Twitter Instagram Youtube

หมวดหมู่

  • ข่าวสาร (3)
  • บทความแนะนำ (219)
  • มอเตอร์ไซค์ (16)
  • รถยอดฮิต (35)
  • รีวิวรถ (17)
  • แต่งรถ (23)
  • ไม่มีหมวดหมู่ (9)

เรื่องล่าสุด

  • อย่ามองข้าม รถโดนน้ำท่วม วิธีเช็ค และ ข้อปฏิบัติ หลังน้ำท่วมที่คนมีรถต้องรู้

    31 มกราคม 2023
  • สังเกตอาการ เสียงรถยนต์ดัง ผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ เสียงดัง ผิดปกติบอกอะไรบ้าง?

    28 มกราคม 2023
  • จอดรถนาน อาการเหล่านี้จะถามหา ปัญหา รถไม่ค่อยได้ขับ ที่ทุกคนควรรู้

    25 มกราคม 2023

เรื่องแนะนำ

  • อย่ามองข้าม รถโดนน้ำท่วม วิธีเช็ค และ ข้อปฏิบัติ หลังน้ำท่วมที่คนมีรถต้องรู้

    31 มกราคม 2023
  • สังเกตอาการ เสียงรถยนต์ดัง ผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ เสียงดัง ผิดปกติบอกอะไรบ้าง?

    28 มกราคม 2023
  • จอดรถนาน อาการเหล่านี้จะถามหา ปัญหา รถไม่ค่อยได้ขับ ที่ทุกคนควรรู้

    25 มกราคม 2023
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Youtube

@2021 - All Right Reserved. Designed and Developed by ยานยนต์.net