ยานยนต์.net
  • หน้าแรก
  • ข่าวสาร
  • รถยอดฮิต
  • รีวิวรถ
  • บทความแนะนำ
@2021 - All Right Reserved. Designed and Developed by ยานยนต์.net
Category:

มอเตอร์ไซค์

มอเตอร์ไซค์

เจิมรถมอไซค์ ใช้อะไรบ้าง สายมู ต้องทราบ ?

by yanyon 11 สิงหาคม 2022
written by yanyon
เจิมรถมอไซค์

เชื่อหรือไม่ว่าการบูชาสิ่งเร้นลับตามความเชื่อของคนไทยนั้นมีมาอย่างช้านาน และไม่ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะดีแค่ไหน แต่ความเชื่อเหล่านั้นล้วนฝังอยู่ในความคิดของคนไทย จนยากที่จะแยกออกจากกันได้ และมันยังคงฝังอยู่ในทุกวิถีชีวิตของคนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้กระทั่งการออกรถใหม่ คนไทยก็มีความเชื่อว่าจะต้องทำพิธีกรรม ที่เรียกกันว่า การเจิมรถ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ เจิมรถมอไซค์ ใช้อะไรบ้าง สายมู ต้องทราบ ? 

เจิมรถมอไซค์ ใช้อะไรบ้าง สายมู ต้องทราบ ? 

1. เตรียมของที่ใช้ในพิธีการ 

สำหรับวิธีการเจิมรถนั้น ไม่ว่าจะเป็นการ เจิมรถมอเตอร์ไซค์ หรือการเจิมรถยนต์ สิ่งแรกที่ต้องจัดเตรียมคือของที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งแต่ละอย่างก็มีความหมาย จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ โดยของที่จำเป็นจะต้องจัดเตรียมมีดังนี้ 

เจิมรถมอไซค์

1.1 ถาดใส่ของไหว้ สามารถใช้พาน จาน หรือภาชนะอื่น ๆ 

1.2 เตรียมธูป 5 คู่ และเทียนอีก 5 คู่ 

1.3 พวงมาลัยดอกไม้สด 1 พวง 

1.4 แป้งดินสอพอง 

1.5 น้ำอบน้ำหอมหรือน้ำปรุง ที่ใช้สำหรับการเติมรถมอเตอร์ไซค์ 

1.6 แผ่นทองคำเปลว 

1.7 ปัจจัยสำหรับบูชาหรือถวายพระที่มาทำพิธีเจิมรถให้เรา

2. เลือกวันที่เหมาะสม ที่จะไปทำพิธีเจิม 

โดยปกติแล้ว สายมู ทั้งหลาย มักจะคิดว่าฤกษ์ของการเจิมรถนั้น จำเป็นต้องไปวันโกนวันพระหรือไม่ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย สำหรับการเจิมรถที่ดีไปวันไหนก็ได้ เพราะฤกษ์ดีคือฤกษ์สะดวกไม่จำเป็นต้องยึดว่าเป็นวันจันทร์หรือวันเสาร์ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยให้เราปราศจากอุบัติเหตุคือความไม่ประมาทของการขับรถ เลือกวันที่เรามีอารมณ์แจ่มใส ไม่มีความมัวหมองในจิตใจ ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะบ่งบอกถึงความปลอดโปร่งการมีสติ

3. เลือกวัดที่สะดวก

หลังจากที่เตรียมอุปกรณ์ในการทำพิธีเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงได้วันที่เราสะดวกจะเดินทางไปทำพิธีแล้ว เราก็ควรจะหาวัดที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้เราสามารถขับรถไปเจิมรถได้ หรือถ้าหากใครไม่สะดวกกับการนำรถไปให้พระที่วัดเจิมคุณสามารถให้คุณพ่อคุณแม่ หรือสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เรานับถือเป็นผู้ทำพิธีเจิมรถให้ได้การเจิมรถมอเตอร์ไซค์ ของ สายมู ทั้งหลาย เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ในกรณีที่ทำแล้วไม่เดือดร้อนใครและมันยังช่วยให้เรามีความมั่นใจในการขับขี่ ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้อย่าลืมทำตามกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการสอบใบขับขี่ ดูแลรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถ รวมไปถึงการขับรถให้ถูกกฎจราจรมีสติต่อการใช้รถใช้ถนนอยู่เสมอก็จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ ไม่เพียงแค่การนำรถไปเติมในวัดดังเท่านั้น

อ่านเพิ่มนเติม: บูชารถมอเตอร์ไซต์

11 สิงหาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

รอบรู้ เรื่อง แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ และแบรนด์นิยมในท้องตลาดเมืองไทย

by yanyon 6 มิถุนายน 2022
written by yanyon
แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์

อุปกรณ์สำคัญที่ทำให้รถมอเตอร์ไซค์สามารถทำงานได้อย่างปกติ เรามีหน้าที่ในการจ่ายพลังงานกระแสตรงไปยังระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไดสตาร์ท การจุดระเบิด ระบบหัวฉีด และอุปกรณ์ทุกสิ่งที่ใช้ไฟฟ้า หลาย ๆ คนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเลือก แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากในปัจจุบันท้องตลาดเมืองไทยมีแบตเตอรี่หลากหลายประเภท วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ รอบรู้ เรื่อง แบตเตอรี่ รถมอเตอร์ไซค์ และแบรนด์นิยมในท้องตลาดเมืองไทย

วิธีการเลือก แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์

1. เลือกจากงบประมาณและประเภทของแบตเตอรี่ที่ต้องการใช้

1.1 แบตน้ำ เป็นแบตเตอรี่แบบตะกั่ว พบได้ทั่วไป และมีราคาถูกที่สุด ต้องทำการเติมน้ำกลั่นเข้าไปอยู่เป็นประจำ มีอายุการใช้งานที่สั้น ต้องการพลังงานที่สูง

1.2 แบตแห้ง ข้อดีคือไม่ต้องการการบำรุงรักษา ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน ราคาแพงกว่าแบตน้ำ

1.3 แบตลิเธียม แบตเตอรี่รุ่นใหม่ล่าสุดนิยมใช้กับมอเตอร์ไซค์ มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา ให้กำลังไปค่อนข้างสูง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ต้องมีการบำรุงรักษาหรือเติมน้ำ ราคาสูงที่สุดในบรรดาแบตเตอรี่ทั้ง 3 ชนิด ข้อจำกัดคือ มีการทำงานที่ค่อนข้างซับซ้อน หากการทำงานผิดพลาดอาจจะทำให้ วงจรไฟฟ้าเกิดความเสียหายได้

แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์

2. เลือกแบตเตอรี่จากความจุ หรือค่า AH ให้มีค่าความจุที่พอเพียงกับรถของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถรุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างมาก ซึ่งหากอยากทราบว่าจะต้องเลือกขนาดแบตเตอรี่เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม สามารถเปิดดูที่คู่มือของรถได้เลย

3. เลือดจากค่าความสามารถในการจ่ายกระแส หรือค่า CCA 

4. เลือกแบตเตอรี่จากความจุภายในรถมอเตอร์ไซค์ หากช่องบรรจุไม่อำนวย จะเลือกแบตเตอรี่ลูกใหญ่อาจจะทำให้ใส่ได้ไม่พอดี

แนะนำ แบตเตอรี่ รถมอเตอร์ไซค์ ที่กำลังเป็นที่นิยม

1. FB battery

เป็นแบรนด์แบตเตอรี่ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในประเทศไทย เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีให้เลือกหลายรูปแบบรวมทั้งหมด 7 รูปแบบ แตกต่างกันไปตามส่วนความจุหรือขนาด

2. GS battery 

เป็นแบรนด์แบตเตอรี่อีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักเหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก มีความสุขแตกต่างกัน

3. Yaasa แบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์

เป็นแบตเตอรี่ที่มีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีให้เลือกตั้งแต่ 5 แอมป์ขึ้นไป ราคาค่อนข้างถูกกว่าแบรนด์ดังๆอยู่ที่หลักร้อยบาท
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีการเลือก แบตเตอรี่ รถมอเตอร์ไซค์ หลาย ๆ แบรนด์ที่กล่าวมาหลาย ๆ คนก็คงรู้จักเป็นอย่างดี การจะเลือกซื้อก็พิจารณาตามความเหมาะสม รวมไปถึงก็ประมาณในกระเป๋า และอย่าลืมพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ดูแลรักษารถของคุณอย่างสม่ำเสมอ เช็กแบตเตอรี่ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง

อ่านเพิ่มเติม: น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์

6 มิถุนายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

เรื่องต้องรู้ก่อน เปลี่ยน น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ และยี่ห้อไหน ที่แนะนำ

by yanyon 2 มิถุนายน 2022
written by yanyon
น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์

แน่นอนว่าน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ หรือสำหรับรถยนต์ ย่อมมีหน้าที่ในการหล่อลื่นเครื่องยนต์ และชุดเกียร์ รวมไปถึงชุดคลัตช์ ซึ่งถ้าหากว่าไม่มีน้ำมันเครื่อง รถมอเตอร์ไซค์ของเราจะไม่สามารถทำงานได้ ทั้งยังจะส่งผลเสียหายต่อเครื่องยนต์ เราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักน้ำมันเครื่อง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก เรื่องต้องรู้ก่อน เปลี่ยน น้ำมันเครื่อง มอเตอร์ไซค์ และยี่ห้อไหน ที่แนะนำ

ประเภท น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

1. น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา ผลิตจากน้ำแร่ เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป มีราคาถูก ควรเปลี่ยนทุกๆ การวิ่ง 2,000-3,000 กิโลเมตร

2. น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ เป็นน้ำมันเครื่องที่มีการผสมสารเคมีลงไป ผลิตจากน้ำแร่และน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ ประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้นมากกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา มีสมรรถนะในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น และจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 3,000-4,000 กิโลเมตร

3. น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องที่ใช้สารเคมี 100% ไม่มีส่วนผสมของน้ำแร่ เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ที่จะต้องเดินทางไกล หรือมีการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 4,000-6,000 กิโลเมตร

น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์

น้ำมันเครื่อง มอเตอร์ไซค์ ต้องเลือกแบบไหน ?

การเลือกน้ำมันเครื่อง มีหลายประเภทเหมาะกับเครื่องยนต์แต่ละแบบเช่น เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ หรือสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติก เป็นต้น

น้ำมันเครื่อง มอเตอร์ไซค์ 2022 ยี่ห้อแนะนำ

1. Castrol Power 1 Automatic 4AT

เป็นน้ำมันเครื่องสำหรับรถ Automatic ออกแบบมาสำหรับรถสกูตเตอร์ ใช้เทคโนโลยีสกูตเทค การป้องกันภายใต้อุณหภูมิสูงของเครื่องยนต์ สูตร Power release ทำให้น้ำมันหล่อลื่นไหลเวียนดีและรวดเร็ว ช่วยลดการเสียดทานที่บั่นทอนสมรรถนะของเครื่องยนต์

2. Castrol Power 1 Ultimate 4T

น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงเกรดพรีเมี่ยม เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% คุณสมบัติ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ได้แก่ เพิ่มอัตราการเร่ง ป้องกันการสึกหรอ สามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่นและนิ่มนวล ดูแลรักษาเรื่องอุณหภูมิให้คงที่ แม้การขับขี่ระยะไกล สามารถทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. Liqui Moly 4T 10W-30

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ผลิตด้วยระบบ Synthetic Technology จากประเทศเยอรมนี ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสึกหรอประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงหล่อลื่นได้อย่างดีทั้งยังสามารถรักษาแรงดันและการทำงานที่สะอาด เหมาะกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะทุกประเภท นอกจากนี้ยังมีการช่วยระบายความร้อนด้วยน้ำหรืออากาศ สามารถใช้กับเครื่องยนต์ที่มีคลัชเปียกและแห้ง

4. PTT Challenger 4T

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% เหมาะกับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ สมรรถนะสูง โดยเฉพาะรถสปอร์ต รถบิ๊กไบค์ และชอปเปอร์ รวมไปถึงรถเกียร์ 2 จังหวะ คุณสมบัติเพิ่มอัตราการเร่งแซง รักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ และป้องกันการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งานของเกียร์
สำหรับ น้ำมันเครื่อง มอเตอร์ไซค์ ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่ไม่สามารถนำเสนอได้ทั้งหมด ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อน้ำมันเครื่องสักยี่ห้อ อย่าลืมดูองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นประเภทของรถมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงประสิทธิภาพและคุณสมบัติของน้ำมันเครื่อง ว่ามีความเหมาะสมกับรถของเราหรือไม่

อ่านเพิ่มเติม: ฟิล์มติดรถยนต์

2 มิถุนายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

เลือกหมวกกันน็อค อย่างไร ให้คุ้มกับเงินที่จ่าย

by yanyon 31 พฤษภาคม 2022
written by yanyon
เลือกหมวกกันน็อค

หมวกกันน็อค เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หากไม่มี นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จนส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของเราด้วย ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกัน วิธีการ เลือกหมวกกันน็อค อย่างไร ให้คุ้มกับเงินที่จ่าย

ประเภทของ หมวกกันน็อค

1. หมวกกันน็อค แบบเต็มหน้า 

คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่าหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ สามารถใส่ได้กับรถหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ หรือรถชอปเปอร์ขนาดใหญ่ การออกแบบจะให้ครอบคลุมหมดทั้งศีรษะ ปิดตั้งแต่ศีรษะจรดท้ายทอย มีการบุนวมเพื่อป้องกันการกระแทกและห่อหุ้มศีรษะ ไม่ให้มีช่องว่าง ได้รับความนิยมสูงสุดเพราะป้องกันอวัยวะได้ดี

2. หมวกกันน็อค แบบโมโตรครอสหรือออฟโรด

มีลักษณะคล้ายกับหมวกเต็มใบ ให้ความปลอดภัยเท่าเทียมกัน แต่เหมาะสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด ด้านหน้าจะมีส่วนยื่นออกมาเพื่อบังแดด และส่วนกลางที่ยื่นออกมาเพื่อป้องกันโคลนหรือเศษหินกระเด็นใส่ เป็นหมวกที่ไม่มีกระจกบังลม ผู้ขับขี่มักนิยมใส่แว่น

เลือกหมวกกันน็อค

3. หมวกกันน็อค แบบเต็มใบ และเปิดหน้า 

เป็นหมวกกันน็อคที่ฮิตกันในหมู่ไบเกอร์ แต่เหมาะกับการขับขี่ในระยะไม่ไกลมาก เหมาะกับรถประเภททัวริ่ง เน็กไบค์ สกู๊ตเตอร์ จุดเด่นคือไม่มีที่ป้องกันตรงคาง แต่จะมีกระจกบังลมที่ครอบปิดลงมาจนถึงคาง กันฝนกันลมได้ดี

4. หมวกกันน็อค แบบโมดูล่า 

เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ประเภท ทัวร์ริ่ง และแอดแวนเจอร์ ลักษณะคล้ายกับหมวกเต็มใบแตกต่างกันตรงที่สามารถดันยกคางขึ้นได้

5. หมวกกันน็อค แบบครึ่งใบ 

เป็นอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย มีหลายทรง สามารถใส่ได้กับมอเตอร์ไซค์ทุกประเภท แต่ข้อจำกัดคือจะครอบเพียงแค่ครึ่งบนศีรษะ ไม่ครอบคลุมปิดไปบริเวณท้ายทอย

วิธีการเลือกหมวกกันน็อค

1. เลือกที่ได้มาตรฐาน รองรับการผลิตมาตรฐานสากล เนื่องจากได้มาตรฐานการผลิตที่คุ้มครองความปลอดภัยให้เรา

2. เลือกตามประเภทการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหมวกเต็มใบ หมวกครึ่งใบ หรือประเภท ¾  ใบ สามารถเลือกตามสไตล์ความชอบและประเภทของรถมอเตอร์ไซค์ที่เราขับขี่

3. ขนาดของหมวก เลือกขนาดของหมวกให้เหมาะสมกับสรีระและศีรษะของผู้สวมใส่ ไม่ควรคับหรือหลวมจนเกินไป

4. ตรวจสอบสภาพการใช้งาน ไม่ควรชำรุดหรือเสียหาย และควรจะมีการเปลี่ยนทุก ๆ 5 ปี หรือเมื่อมีการชำรุด

5. รัศมีการมองเห็น จะต้องไม่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น ไม่มืดจนเกินไป และควรจะมีคุณสมบัติในการกันแสงหรือตัดแสงด้วย

6. การระบายอากาศ ควรเลือกหมวกกันน็อคที่มีการถ่ายเทอากาศได้ดี มีความอับชื้น เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

7. สามารถถอดซับในออกมาซักได้ เพราะการทำความสะอาดจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพื่อสุขภาพของผู้สวมใส่

การเลือกหมวกกันน็อค ดี ๆ สักใบ นอกจากจะเพิ่มความสวยงามและความมั่นใจในการขับขี่แล้ว อยากเป็นการทำตามกฎหมาย รวมไปถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเราและคนที่คุณรัก อย่าลืมมองหาหมวกกันน็อคดี ๆ ไว้สำหรับใช้ในการขับขี่บนท้องถนน

อ่านเพิ่มเติม: ล้างอัดฉีด

31 พฤษภาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

อะไหล่ สายแต่ง แต่งรถบิ๊กไบค์ ยังไงให้ปลอดภัย และคุ้มค่าเงินในกระเป๋า

by yanyon 9 พฤษภาคม 2022
written by yanyon
แต่งรถบิ๊กไบค์

รถบิ๊กไบค์ ถือเป็นความฝัน ของผู้ชายหลายคน และไม่เพียงแค่ผู้ชายเท่านั้น สาว ๆ หลายคนในปัจจุบัน ก็ชื่นชอบและให้ความนิยม กับรถบิ๊กไบค์ รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ที่เหมาะกับการเดินทางไกล สายทริป ขึ้นเหนือล่องใต้ การแต่งรถมอเตอร์ไซค์ มีมาอย่างยาวนาน สำหรับวันนี้ไปดูวิธีว่า อะไหล่ สายแต่ง แต่งรถบิ๊กไบค์ ยังไงให้มีความปลอดภัย และคุ้มค่าเงินในกระเป๋า 

ก่อนที่เราจะ แต่งรถ บิ๊กไบค์ นั้นเราจะต้องรู้เทคนิค ในการตกแต่งเพื่อที่จะให้เหมาะกับตัวรถของเรา ซึ่ง เราสามารถแยกประเภทของการแต่งรถ ออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน

ประเภทของการ แต่งรถบิ๊กไบค์ 

1. การแต่งรถแนว (Vintage bike) 

ในการแต่งรถแนวนี้จะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เนื่องจากจุดเด่นจะเป็นความวินเทจของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น Haley ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะนิยมตกแต่งบริเวณแฮนด์รถ หรือส่วนหน้ารถ เช่น การใช้ผ้าที่เป็นหนังตัดเป็นริ้ว ๆ พันบริเวณแฮนด์รถ เพื่อให้เกิดความคลาสสิก 

2. การแต่งรถแนว (Sport Bike) 

เอกลักษณ์สำหรับการแต่งรถแนวนี้คือ การปรับเปลี่ยนเบาะท้ายให้มีลักษณะสั้น เพราะต้องการโชว์ความสวยงามของบริเวณล้อรถ เนื่องจากจะมีล้อที่ค่อนข้างย้าย รวมไปถึงการเปลี่ยนสีให้ดูมีเสน่ห์ แต่ไม่ชุดชา ลักษณะการแต่งรถแนวนี้จะออกเป็นแนวสปอร์ต อาจมีการติดสวิงอาร์มสีต่าง ๆ ให้มีความเท่ ก็ได้เช่นเดียวกัน 

3. การแต่งรถแนวอิสระ (Naked Bike)  

การแต่งรถแนวนี้ สามารถเปลี่ยนทั้งสีรถ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถไม่ว่าจะเป็น ปั๊มเบรก โช้ค รวมทั้งการติดสติกเกอร์ต่าง ๆ แต่โดยปกติแล้วก็ยังคงความเป็นหรอก มีความดุดัน และแข็งแรง 

ของ แต่งรถบิ๊กไบค์ ที่จำเป็นต้องมี สวยดีและมีประโยชน์ 

1. การตกแต่งท่อไอเสีย 

  ท่อไอเสียถือว่าเป็น ชิ้นส่วนอันดับต้น ๆ ที่บรรดาไบค์เกอร์ทั้งหลายให้ความสนใจและนิยมเปลี่ยน ในบางรุ่น มีการตกแต่ง เสียง โดยทั่วไปแล้วท่อไอเสียที่มาจากแบรนด์ดัง ๆ จะมีราคาค่อนข้างสูง เช่น Yoshimura เป็นต้น 

2.  การตกแต่งปั๊มเบรก 

  เรื่องของทั้งปั๊มบนและปั๊มล่าง หรือแม้กระทั่งสายน้ำมันเบรก ซึ่งโดยปกติแล้วอะไรเหล่านี้มักจะมาครบชุด เนื่องจากเบรก เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัย และรถบิ๊กไบค์เมื่อวิ่งเป็นระยะทางไกลก็จะเกิดความร้อนของผ้าเบรก ทำให้เกิดการยุบ ดังนั้น การเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ ก็มีส่วนช่วยให้ยืดอายุการทำงานของรถ และการเดินทางที่ปลอดภัย 

3. ตกแต่งพักเท้า เกียร์โยง 

  การใส่เกียร์โยงเป็นการเพิ่มเสน่ห์ในการขับขี่อีกอย่างนึง และปัจจุบันนี้ราคาก็ไม่แพง นิยมใส่ในรถสายสปอร์ตเช่น Ninja400 ZX-10R หรือสาย Naked เป็นต้น 

4. การเพิ่ม กันสะบัด 

โดยปกติแล้วรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีการติดตั้งมาจากโรงงาน ส่วนรุ่นไหนที่ไม่มีก็สามารถหาซื้อมาใส่ได้ กันสะบัดจะช่วยให้เห็นมีความนิ่ง กรณีที่มีการใช้ความเร็วรถสูง ๆ หรือผ่านทางขรุขระ ก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

5. ตกแต่งโช้คอัพ 

  โช้คอัพ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถมีความนิ่ม สามารถปรับเปลี่ยนให้มีความอ่อนนุ่มได้ตามต้องการ แต่โดยปกติแล้ว ชาวไบค์เกอร์จะไม่ค่อยเปลี่ยน จะนิยมใช้กับตัวรถที่มีการให้มาดังเดิม 

6. การ์ดหม้อน้ำ 

  เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มแรกแรกของการ ตกแต่งบิ๊กไบค์ เพราะนี่คือหัวใจหลักที่ลดความเสี่ยงเมื่อต้องเดินทาง 

แต่งรถบิ๊กไบค์

7. อุปกรณ์สำหรับผู้ขับขี่ 

นอกจากการตกแต่งตัวรถบิ๊กไบค์แล้ว อุปกรณ์สำหรับผู้ขับขี่ก็มีส่วนสำคัญ เพราะจะช่วยให้เรามีการขับขี่ที่ปลอดภัย เซฟตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน็อก เสื้อและกางเกงการ์ด ถุงมือ และรองเท้าเซฟตี้ เป็นต้น 

8. อุปกรณ์ตกแต่ง ภายใน 

  อุปกรณ์ตกแต่งภายในที่มองไม่เห็นแต่มีส่วนสำคัญที่ทำให้รถมีความปลอดภัย เมื่อถึงระยะเวลาของการเปลี่ยน ก็มีความจำเป็นจะต้องตรวจเช็คและเปลี่ยน เช่น ฮั่วเทียน กรองอากาศ เป็นต้น

9. อุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบ 

  อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ตกแต่งเพื่อความสวยงาม เพิ่มความมีระดับให้กับรถของเรา เช่น น็อตไทเทเนียม หมุดทอง อัพเกรดชุดสี คัสตอม เป็นต้น 
  สำหรับการ ตกแต่งรถบิ๊กไบค์ นั้น อาจจะทำให้รถของเราดูดี แต่อย่าลืมว่า มันก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย ดังนั้น ควรจะศึกษาข้อมูล และงบประมาณก่อนเปลี่ยนอุปกรณ์ แต่ถ้าหากว่าสิ่งเหล่านั้น ทำให้ชีวิตของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะยังไง รถก็อยู่กับเรา พาเราออกเดินทาง และสิ่งที่คนขับต้องมี คือความมีสติ เพื่อการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัย 

อ่านเพิ่มเติม: บิ๊กไบค์มือสอง

9 พฤษภาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

ต้องรู้ก่อนซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ดูอะไรบ้าง ?

by yanyon 9 พฤษภาคม 2022
written by yanyon
บิ๊กไบค์มือสอง

สำหรับใครที่อยากจะมีรถสักคันหนึ่ง ทุกคนคงอยากจะมีรถใหม่มือหนึ่งกันทุกคน แต่อาจจะมีงบประมาณ ในการจะจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถบิ๊กไบค์ ที่มีราคาค่อนข้างสูง บางรุ่น มีราคาพอ ๆ กับรถยนต์ยี่ห้อดี ๆ บางคันเลย ดังนั้น บิ๊กไบค์มือสอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ วันนี้เราจะพาทุกคน ไปทราบ

ต้องรู้ก่อนซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ดูอะไรบ้าง ?  

รถบิ๊กไบค์ จัดอยู่ในตระกูลประเภทรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เครื่องยนต์มีขนาดตั้งแต่ 250 ซีซี ขึ้นไป ในแต่ละรุ่นก็จะมีรูปแบบของเครื่องยนต์และกำลังส่งแตกต่างกัน มีทั้งแบบสูบเดียว และ 4 สูบ ในบางรุ่น สามารถตกแต่งให้เพิ่มได้มากถึง 6 สูบ 

ประเภทของรถบิ๊กไบค์ 

1. Touring 

รถบิ๊กไบค์ประเภทนี้ซีซีมักจะสูง เหมาะกับการวิ่งทางไกล ขับขี่สบาย มีบังลมหน้าขนาดใหญ่ พร้อมกับที่ใส่สัมภาระ ลักษณะตัวถังไม่สูงมากทำให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้ง่าย ลักษณะแฮนด์ยกสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องก้ม 

2. Sport 

รถบิ๊กไบค์ที่มีรูปทรงปราดเปรียว เหมาะกับสายนักแข่ง ออกแบบมาเพื่อควบคุมรถง่าย ลักษณะผู้ขับต้องโน้มตัวไปด้านหน้า เพื่อลดการต้านแรงลม แฮนด์ที่จับมีลักษณะดรอปลง และตัวถังมีลักษณะสูงขึ้นรับช่วงลำตัว 

3. Naked Bike 

เป็นรถบิ๊กไบค์ที่ออกแบบมาสำหรับการขับทางไกล หรือกลุ่มนักท่องเที่ยว บิ๊กไบค์รุ่นนี้ขับที่ความเร็วต่ำ ไม่มีบังลมส่วนหน้า เสียงดังกระหึ่ม ลักษณะท่านั่งขับขี่ค่อนข้างสบาย บางครั้งผู้คนเรียกว่า ชอปเปอร์ 

4. Dual Purpose 

เป็นรถอเนกประสงค์ อีกประเภทหนึ่งของบิ๊กไบค์ ได้รับความนิยมแถบยุโรป เหมาะสำหรับการขับขี่บนเทือกเขา ทางวิบาก แล้วถนนเรียบ โดยปกติแล้วมีไว้สำหรับนักแข่งกึ่งวิบาก ที่ต้องการความแตกต่าง รถสามารถทำความเร็วได้ดี แต่ซีซีไม่สูงมาก 

  ซื้อ รถบิ๊กไบค์มือสอง ดูอะไรบ้าง ?

1. ตรวจเช็คเอกสาร เลขที่คอ เลขที่เล่มตรงกับเครื่อง 

  แน่นอนว่าการซื้อขายรถมือสอง สิ่งที่จำเป็นต้องดูคือเอกสารประกอบการซื้อขายรถ ไม่ว่าจะเป็นเล่ม ทะเบียนรถ ให้สังเกตเลขที่คอ และเลขที่เครื่อง ว่าตรงกับคู่มือการจดทะเบียนเล่มหรือไม่ 

2. สีรถควรเป็นสีเดิมจากโรงงาน 

สภาพสีรถไม่ควรเป็นการทำสีใหม่ รถที่จะซื้อควรจะเป็นสีเดิมจากโรงงาน เพื่อที่เราจะได้ ตรวจสอบถึงร่องรอยอุบัติเหตุ ซึ่งการตรวจสอบนี้อาจจะยากสักเล็กน้อย เนื่องจากโดยปกติของคนที่ขายรถ มักจะนิยมนำรถไปทำสี มากกว่าการเปลี่ยนอะไหล่ชุดแฟริ่ง ที่มีราคาแพงกว่า  

3. ตรวจสอบเครื่องยนต์ และเสียงของเครื่องยนต์ ไม่ควรสะดุด 

  อาจจะอาศัยวิธีการฟังเสียง ในกรณีที่ไม่มีเครื่องมือตรวจสอบ เช่น ให้ลองสตาร์ทรถ แล้วฟังเสียง ว่ารอบการเดินสะดุดหรือไม่ กรณีที่เป็นเครื่องสี่สูบ จะต้องมีรอบประมาณ 1,200 รอบต่อนาที อาจจะมีความสวิงบ้างแต่ไม่ควรมากจนเกินไป ในกรณีที่ เจอเคสแคมชาร์ฟละลาย เมื่อมีการบิดหรือเร่งเครื่อง ตัวเครื่องจะมีลักษณะสะท้าน ไม่นิ่ง อย่าลืมตรวจสอบปลายท่อไอเสียประกอบด้วย ว่ากระบอกสูบมีน้ำมันเครื่องเข้าไปและมีการเผาไหม้ไม่หมดหรือไม่ หากเกาะสะสมตัวนาน ๆ อาจจะมีคราบน้ำมันเยิ้มได้ 

4.  ตรวจเช็คอุปกรณ์ ว่ามีครบถ้วนหรือไม่ 

4.1 ยาง อย่างที่ดีจะต้องอยู่ในสภาพที่เนื้อไม่มีลักษณะแตกนิ่ม ถ้าเป็นไปได้ให้ดูวันผลิตอย่าให้นานจนเกินไป 

4.2 โซ่และสเตอร์ ในกรณีที่ซื้อแล้วต้องเปลี่ยนใหม่ราคาประมาณหมื่นกว่าบาท ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้มีการเปลี่ยน 

4.3 ผ้าเบรคแตก พิจารณาจากความหนา ความสึกกร่อน และอายุการใช้งาน หากมีลักษณะเก่า แนะนำให้เปลี่ยน 

4.4 จานเบรก สามารถดูได้จากความหนาและพื้นผิว หากเป็นจานเบรกหมายลักษณะพื้นผิวจะมีความเป็นเงา คล้ายกระจก หากมีการสึกกร่อน จะมีลักษณะเป็นพื้นผิวด้าน ๆ ไม่มีความเรียบ มีรอยเป็นคลื่น 

บิ๊กไบค์มือสอง

5. สิ่งที่ตาเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็น 

เนื่องจากมีอุปกรณ์บางส่วนที่ตาดูเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นของจริง เช่น เรือนวัดความเร็วระยะเลขไมล์ ซึ่งสามารถปลอมแปลงหรือปรับใหม่ได้ 

6. การรับประกัน รวมทั้งการบริการหลังการขาย 

สำหรับการซื้อรถกับเจ้าของโดยตรง อาจจะมีข้อเสียเรื่องประกัน ดังนั้นควรจะสอบถามรายละเอียดกับทางผู้ขายสามารถนำรถเข้าซื้อประกันได้ เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักบิ๊กไบค์ดีขึ้น และ สำหรับใครที่ต้องการจะซื้อ รถบิ๊กไบค์ มือสอง ก็น่าจะมีข้อมูล เพื่อสามารถนำไปวิเคราะห์และเปรียบเทียบ ก่อนจะซื้อ รถบิ๊กไบค์ มือสอง มาครอบครอง อย่าลืมหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ หากไม่มีความเข้าใจหรือความรู้ ควรจะปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ 

อ่านเพิ่มเติม: ล้างรถยนต์ด้วยสบู่

9 พฤษภาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

ส่อง รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่นไหนน่าจับจอง 2022

by yanyon 24 เมษายน 2022
written by yanyon
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งพาหนะคู่ใจที่หลายคนใฝ่ฝัน ด้วยขนาดที่คล่องตัวซอกแซกได้ ทำให้ประหยัดเวลาเดินทาง แถมด้วยระบบไฟฟ้าไม่ใช้น้ำมัน จึงทำให้มีเงินเหลือเก็บมากขึ้นด้วย เรามาดูกันว่ามอเตอร์ไซค์ระบบไฟฟ้า ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของในปี 2022

จะมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นไหนบ้าง

1. H SEM Ciao

เป็นมอเตอร์ไซค์รูปทรงน่ารักและสีสันประจำรุ่นคือ แดงสดใส ดีไซน์ให้เหมาะกับการใช้ระบบมอเตอร์แบบ Brushless Hub-Motors ที่มีกำลังแรง 2.7 แรงม้า ขับขี่ได้ด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยชาร์จไฟครั้งหนึ่งวิ่งได้ไกล 60 กิโลเมตร ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับกลุ่มนักศึกษาหรือคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 49,700 บาทเท่านั้น

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

2. Etran Myra Plus I

เป็น รถมอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้า ผลิตจากโรงงานในไทย ทำให้ไร้ปัญหาซ่อมยากรออะไหล่นาน สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ LMO 40Ah จำนวนสองลูก ขนาดมอเตอร์ 7 พันวัตต์ เห็นวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงขนาดนี้ ก็มีระบบความปลอดภัยไม่น้อยหน้าด้วยระบบดิสก์เบรกคู่ ใครที่ชื่นชอบรถไฟฟ้าทรงเหลี่ยมคลาสสิกสีดำเข้มใช้ง่ายและทน ต้องรุ่นนี้เลย สนนราคาที่ 90,950 บาท ถือว่าคุ้มค่ามาก

3. DECO รุ่น Super Ace

เดโก้เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอีกรุ่นที่มีดีไซน์เก๋เหมาะกับการขับระยะทางไกล ด้วยกำลังแรงของมอเตอร์ 2 พันวัตต์ และแบตเตอรี่ความจุ 72 โวลต์ 30 Ah สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 99 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่น้อยหน้าการขับรถเก๋งอีโค่คาร์เลย แถมยังมีจุดเด่นที่ใช้เวลาในการชาร์จน้อยเพียง 2-3 ชั่วโมงก็สามารถออกทริปไกล ๆ ได้ถึง 80 กิโลเมตรเลย สำหรับคนที่สนใจเตรียมเงินไว้หกหมื่น มีทอนเหลือ ๆ ด้วย

4. AJ EV BIKE Q5

ถ้าพูดถึง AJ คนมักคิดถึงเครื่องเสียง แต่ตอนนี้แบรนด์ AJ ได้ขยายการตลาดมาที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเอาใจคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์น่ารัก ๆ อย่างรุ่น Q5 ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1200 วัตต์ สามารถใช้ความเร็วได้สูงถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังวิ่งได้ไกลถึง 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมตีตลาดด้วยราคาประหยัดแค่ 39,900 บาท ก็สามารถขับขี่ไปซื้อกับข้าว ไปเรียน เที่ยวต่างจังหวัดใกล้ ๆ บ้านได้แล้ว

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

5. Strom SailfishSFH-150Ls

สำหรับชาวอินดี้ที่ชอบความคลาสสิกย้อนยุค เราอยากให้ลองรุ่นนี้ แม้หน้าตาและสีสันจะดูวินเทจ แต่บอกเลยว่ากำลังแรงส่งไม่น้อย เพราะขับเคลื่อนได้ด้วยมอเตอร์กำลัง 1500 วัตต์ เร่งได้ถึง 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมมีหน้าจอแสดงผลแนวคลาสสิกและไฟ LED ไม่ซ้ำใคร ระบบความปลอดภัยก็เป็นเลิศ คือ ดิสก์เบรกที่ล้อหน้า และดรัมเบรกที่ล้อหลัง ที่ประทับใจที่สุดก็คือราคาที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ เพียงแค่ 69,900 บาทเท่านั้น
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีแบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เข้ากับรูปลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์ที่ตอบโจทย์รสนิยมและความเร็วในการขับขี่ทุกเพศทุกวัย เชื่อว่าจากนี้ไปจะมีรุ่นใหม่ ๆ จากโรงงานแบรนด์ต่าง ๆ สู่ตลาดทั่วโลกอีกมาก และแน่นอนว่าต้องมีสักคันที่ตรงใจคุณอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม: ชวนรู้จัก 4 รถการเกษตร ที่เกษตรกรไทยนิยมใช้

24 เมษายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

รถVESPA รุ่นไหนฮิตสุด 2565

by yanyon 19 เมษายน 2022
written by yanyon

รถVESPA เป็นสกู๊ตเตอร์นำเข้าจากอิตาลี ที่มีความสวยเฉพาะตัวจากดีไซน์คลาสสิกออกแนววินเทจนิด ๆ ที่ตรงใจคนไทยทั้งวัยรุ่นจนถึงวัยเกษียณ ที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบชิล ๆ ไม่ซ้ำใคร ขับขี่สบาย ๆ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว

เรามาดูกันว่าในปี 2565 นี้ รถVESPA รุ่นไหนที่เข้าตาน่าซื้อบ้าง

1. รุ่น Primavera S Touring

เป็นรุ่นที่ออกแบบสำหรับสายลุยนั่งได้สบาย กับตัวถังสามสีที่คนไทยชอบมากที่สุด คือ เทา ดำและเขียวพาสเทล มีจุดเด่นสำคัญที่ตะแกรงหน้าแบบโครเมี่ยมใต้ไฟหน้ากลมโตและที่บังลมดีไซน์เก๋ เหมาะกับหนุ่มสาวโสดผู้รักเวสป้าตะลอนทัวร์ได้ทั่วเมือง

รถVESPA

2. รุ่น GTS super sport

ด้วยราคาเกือบสองแสนสองหมื่นบาท เรียกได้ว่าเป็นเวสป้ารุ่นที่อัปเกรดตามมาตรฐานยูโร4 ให้เป็นแบบเครื่องยนต์ HPE สุดทันสมัยและคุณต้องหลงใหลในสมรรถนะการขับขี่ที่ลุยได้ทุกที่ จะลุยเดี่ยวหรือไปสวีทกับคนพิเศษ คันนี้ตอบโจทย์มาก

3. รุ่น Primavera picnic

เป็นรุ่นที่ออกแบบได้สมกับการไปปิคนิค ตั้งแต่ขนาดรถที่ไม่ใหญ่เทอะทะ ขับขี่ง่าย สีตัวถังรถที่เน้นพาสเทลให้ความสบายตา มีตะแกรงหน้าและหลังเสริมเพื่อการใส่ของกินของใช้เพียงพอสำหรับวันหยุดพักผ่อนแบบครอบครัวเล็ก ๆ ที่คุณจะหลงรักเวสป้าคันนี้

4. รุ่น Sprint 

เป็นเวสป้าอีกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคน้ำมันแพงและเริ่มต้นที่ราคาเพียงหนึ่งแสนนิด ๆ เหมาะกับการขับขี่ในมหาวิทยาลัยหรือเดินทางท่องเที่ยวแบบสะดวกลัดเลาะและหาที่จอดง่ายสุด ๆ ที่สำคัญ มีระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติและมีการช่วยเบรคแบบ ABS จึงเหมาะกับมือใหม่หัดขับ ที่ไม่ต้องเหนื่อยควบคุมรถมาก แถมยังขับได้ปลอดภัยมากขึ้นด้วย

รถVESPA

5. รุ่น LX

เป็นอีกรุ่นที่เครื่องยนต์เล็ก ราคาไม่แพงเพียงเก้าหมื่นกว่าบาท แต่คุณจะได้เวสป้าอิตาลีที่ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร เบาะนั่งสบายไม่เมื่อยเพราะออกแบบมาให้รับกับสรีระอย่างดี เหมาะกับวัยเรียนหรือวัยทำงานที่เพิ่งหัดขับ และต้องการรถที่น้ำหนักเบาในการเคลื่อนย้าย เพราะคันนี้หนักแค่ 114 กิโลกรัมเท่านั้น

6. รุ่น GTS super tech

เวสป้ารุ่นนี้ตอบโจทย์สายลุยสุดเข้ม ด้วยรูปลักษณ์และเครื่องยนต์แบบ Quarsar ที่เสริมพละกำลังได้แบบเต็มแรง ทั้งยังมีเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับมือถือ หรือที่เรียกว่า Vespa mia เรียกได้ว่าขึ้นเหนือล่องใต้ก็ไม่ต้องห่วง มีเวสป้าคันนี้คันเดียวจบ!

รถVESPA


รถ VESPA ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร แต่ยังมีความแตกต่างที่นวตกรรมการพัฒนาเครื่องยนต์และการเชื่อมโยงกับระบบเทคโนโลยีที่ไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกันก็ยังใส่ใจความรู้สึกของผู้เป็นเจ้าของด้วยการคุมโทนสีกับการออกแบบที่นั่งและตะแกรงต่าง ๆ อย่างลงตัว รู้อย่างนี้แล้วคุณไม่สนใจเวสป้าสักคันหรือ?

อ่านเพิ่มเติม: เปิดตำนาน รถเต่า VOLKSWAGEN สุดคลาสสิก

19 เมษายน 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

รถมอไซค์วิบาก มีรุ่นไหนบ้างพาลุยกันแบบสุด ๆ 

by yanyon 23 มีนาคม 2022
written by yanyon
รถมอไซค์วิบาก

รถมอไซค์วิบาก เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักความมันส์ของเครื่องยนต์ที่ไม่แพ้รถสปอร์ตสี่ล้อ คุณอาจเรียกว่ามอเตอร์ไซค์แบบนี้ว่าเป็น มอเตอร์ไซค์ออฟโรด ก็ได้เนื่องจากเป็นที่นิยมในการประลองความแร็วแรงในสนามแข่งแบบกีฬาเอ็กซ์ตรีมเต็มไปด้วยดินหลุมโคลนหรือวิบาก 100% และใช้เพื่อการลุยไปในทุกพื้นที่จริงไม่ว่าจะยากลำบากเส้นทางขรุขระลูกรังแค่ไหน

เรามาดูกันว่ามอเตอร์ไซค์รถมอไซค์วิบากรุ่นไหนบ้างที่อยู่ในกลุ่มนี้ 

1. Honda CRF250 Rally

ฮอนด้าผลิต รถมอไซค์ วิบาก รุ่นนี้ด้วยคอนเซปต์เฉพาะตัวว่า The Fearless Species เป็นการยืนยันว่ารุ่นนี้แรงได้ใจนักบิดแบบไม่ต้องกลัวใครจริง ๆ ด้วยราคาที่แพงกว่าดาวน์รถนิดเดียว 164,600 บาท คุณจะได้มอเตอร์ไซค์ที่รถเก๋งอีโคคาร์ยังอายเพราะเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ DOHC เกียร์หกสปีด อัตราส่วนแรงอัดสูงที่ 10.7 ต่อ 1 ภายใต้รูปทรงสุดปราดเปรียว และบังลมหน้าขนาดใหญ่แต่ไม่ดูคร่ำครึ มั่นใจได้ว่ารุ่นนี้ใช้นี้ไหนก็ลุยได้ไม่อายใคร

รถมอไซค์วิบาก

2. Yamaha TMax 2022

เป็นมอเตอร์ไซค์ไซส์ใหญ่มีดีไซน์สวยเท่ตามเอกลักษณ์ยามาฮ่าที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ตัวถังถูกออกแบบใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวโดยทำจากอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา ไฟหน้าส่องสว่างด้วย Projector LED แบบคู่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 4 จังหวะ ให้กำลัง 47 แรงม้า โดยมีให้เลือก 3 สีสีดำ สีเทาและสีเหลือง ในราคาเกาะกลุ่มรถเก๋งซีดาน 5 แสนกว่าบาท

3. Triumph Tiger Sport 660

เสือน้อยตัวนี้ตอบโจทย์ขาลุยที่ชอบเทคโนโลยีเป็น ชีวิตจิตใจ นอกจากจะพาคุณโลดแล่นไปกับถนนได้ทุกรูปแบบอย่างปลอดภัยด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 3 สูบ dohc 660 ซีซีเทียบเท่ากับ k-car ที่นิยมในญี่ปุ่นแล้ว ยังมีความทันสมัยที่หน้าจอเรือนไมล์แบบ tft  รองรับระบบนำทาง Go Pro แถมยังไปได้ไกลกว่าด้วยถังน้ำมันใหญ่ถึง 17 ลิตรด้วย ราคาจับต้องได้เพียง 3.5 แสนบาท

รถมอไซค์วิบาก

4. Suzuki Nex Crossover

รุ่นนี้เหมาะกับวัยทำงานสร้างตัวที่อยากมีมอเตอร์ไซค์วิบากสันคันไว้ลุยต่างจังหวัดปลดปล่อยความเครียดจากงานประจำ ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 5 หมื่นบาท รุ่นนี้ขี่ง่ายมีความสูงจากพื้น 150 เมตร ใช้ระบบโช้คอัพด้านหลังเป็นสปริง Progressive ลดความสะเทือนได้ดี หน้าจอแสดงผลแบบ LCD เท่สะดุดตา แถมด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดงสด Nissin ที่ไม่เหมือนใคร วิ่งไกลแค่ไหนก็แรงดีไม่มีตกด้วยเครื่องยนต์ขนาด 112.8 ซีซี
รถมอไซค์ วิบาก แม้จะมีราคาสูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์สำหรับใช้งานทั่วไป แต่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์และตัวตนของผู้เป็นเจ้าของ ขอเพียงเลือกให้เหมาะกับตัวคุณและขับขี่ด้วยความไม่ประมาท คุณก็จะเป็นสิงห์นักบิดที่มีความสุขกับช่วงเวลาดี ๆ กับเจ้าสองล้อคันนี้อย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม: รถยนต์7ที่นั่ง , 11 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวใหญ่ มีรุ่นไหนน่าสนใจ 2022

23 มีนาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
มอเตอร์ไซค์

All New CBR150R  แรงเท่าที่ใจอยากแรง

by yanyon 1 มีนาคม 2022
written by yanyon
CBR150R

All New CBR150R  แรงเท่าที่ใจอยากแรง  เปิดตัวหน้าตารูปโฉมใหม่หมด  เป็นรถบิ๊กไบค์  ในตระกูลรถบิ๊กไบค์ค่ายฮอนด้า  ที่ดัดแปลงมาจากรถบิ๊กไบค์ที่ใช้ในสนามแข่งขันรถ  

CBR150R

All New CBR150R 

ดีไซน์ตัวรถ  ใหม่หมดรอบคัน  เส้นสายลายเส้นแบบรถสปอร์ตฟูลลิ่ง  ปรับเบาะนั่งต่ำ ให้สอดรับกับท่านั่ง  การขับขี่ใหม่   ให้เรากระชับและปราดเปรียว  มากยิ่งขึ้น  ตามหลักแอโร่ไดนามิก  ให้คุณเข้าโค้งด้วยความเร็ว  ได้อย่างปลอดภัย  

All New CBR150R  มีให้เลือกซื้อทั้งหมด 2 รุ่นย่อยด้วยกัน  ได้แก่ รุ่น เอบีเอส สีแดง  Tri-colour  และรุ่น สีดำ-แดง  Mat-GunPowder  ราคาแนะนำ 99,900 บาท  และรุ่น Standard มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น คือ  สีดำ-แดง Mat – Gunpowder  , สีแดงดำ  Millennium และสีเทา-เหลือง Mat-Axis Grey  ราคาแนะนำ 92,900 บาท  

เจ้าตัวนี้มาพร้อมกับ  เทคโนโลยีที่เหนือชั้นไปมากขึ้น  ยิ่งกว่าเดิมอีก  เหนือชั้นกว่าคลาสรถสปอร์ต  ในตระกูลรถ 150ซีซี  ในเรื่องของการออกแบบตัวรถ  และอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มา  เหมือนกับเราขี่รถซุปเปอร์คาร์  และเป็นการเปิดประสบการณ์ การขับขี่ให้ลูกค้า  ได้สัมผัส  และต่อยอดไปยัง  รถ CBR  ซีรีย์ที่สูงขึ้น ๆ ไป   สเปคและอุปกรณ์ภายนอก  ไฟหน้าแบบ LED 2 ชั้น  แบบ Double-Layered  ทั้งหน้าและหลัง  มาพร้อกับ  Position Light  คู่บน  และไฟเลี้ยว Led  แบบโฉบเฉี่ยว  ตัวรถถูกออกแบบมาให้มีแรงเสียดทาน  ในขณะขับขี่ที่ต่ำที่สุด

เครื่องยนต์เป็นแบบ  ใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด  149ซีซ๊ DOHC  4 จังหวะ 4 วาล์ว  ต่อสูบ  ระบายความร้อนด้วยน้ำ  มาพร้อมกับระบบ  Assist  and Slipper  clutch ทุกการเปลี่ยนเกียร์ของคุณมีความนิ่มนวล  มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม  กำลังบิดสูงสุด 17.1 แรงม้า  9,000 รอบต่อนาที  แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 14.4 นิวตันเมตร  ที่ 7,000รอบต่อนาที  ขับเคลื่อนรถด้วยเกียร์แมนนวล 6 สปีด  ส่งพละกำลังด้วยโซ่  ใช้โช๊คหน้าแบบหัวกลับ   จากแบรนด์ SHOWA  

ระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับ  ดิสก์เบรกหน้าและหลัง  พร้อมระบบเบรกแบบ ABS  เสริมด้วยระบบไฟฉุกเฉิน  ESS แสดงสัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน  เมื่อเบรกอย่างกะทันหัน  ล้อแม็ก ด้านหน้าให้มาขนาด 100/80-17M/C 52P และด้านหลังขนาด 130/70-17M/C 62P เรือนไมล์แสดงผลแบบดิจิทัล มาพร้อมวัดรอบเครื่องยนต์ ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์ ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ระบบ ODO Meter แสดงระยะทางทริป A และ ทริป B  

ตัวนี้เพิ่มเติมคือ ชุดแฟริ่งปรับใหม่หมด  โดยเฉพาะด้านข้างที่มีโปร่งออกมา  และมีครีบด้านใน  ได้แรงบันดาลใจมาจาก  วิงเลทรุ่นพี่ใหญ่  ในค่ายฮอนด้านั่นเอง  แฟริ่งท้าย  ปรับใหม่  มีการเซาะร่องเป็นแถบ 2 ขีด  ได้แรงบันดาลใจจากพี่ใหญ่  CBR1000RR  เช่นกัน  ถังน้ำมันของรุ่นนี้ก็หนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  มีมุมแหลมคม  ดูโฉบเฉี่ยว 

อ่านเพิ่มเติม: APRILIA TUONO 660 สองสูบตัวแรง

1 มีนาคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
  • 1
  • 2

ติดตามเรา

Facebook Twitter Instagram Youtube

หมวดหมู่

  • ข่าวสาร (3)
  • บทความแนะนำ (219)
  • มอเตอร์ไซค์ (16)
  • รถยอดฮิต (35)
  • รีวิวรถ (17)
  • แต่งรถ (23)
  • ไม่มีหมวดหมู่ (9)

เรื่องล่าสุด

  • อย่ามองข้าม รถโดนน้ำท่วม วิธีเช็ค และ ข้อปฏิบัติ หลังน้ำท่วมที่คนมีรถต้องรู้

    31 มกราคม 2023
  • สังเกตอาการ เสียงรถยนต์ดัง ผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ เสียงดัง ผิดปกติบอกอะไรบ้าง?

    28 มกราคม 2023
  • จอดรถนาน อาการเหล่านี้จะถามหา ปัญหา รถไม่ค่อยได้ขับ ที่ทุกคนควรรู้

    25 มกราคม 2023

เรื่องแนะนำ

  • อย่ามองข้าม รถโดนน้ำท่วม วิธีเช็ค และ ข้อปฏิบัติ หลังน้ำท่วมที่คนมีรถต้องรู้

    31 มกราคม 2023
  • สังเกตอาการ เสียงรถยนต์ดัง ผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ เสียงดัง ผิดปกติบอกอะไรบ้าง?

    28 มกราคม 2023
  • จอดรถนาน อาการเหล่านี้จะถามหา ปัญหา รถไม่ค่อยได้ขับ ที่ทุกคนควรรู้

    25 มกราคม 2023
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Youtube

@2021 - All Right Reserved. Designed and Developed by ยานยนต์.net