
ใน รถยนต์ นั้นมีอุปกรณ์มากมายโดยเฉพาะ บริเวณเครื่องยนต์ต่าง ๆ และแน่นอนว่าปัญหาส่วนใหญ่ของเครื่องยนต์นั้นก็จะเกิดจาก ระบบที่มีการระบายความร้อนแบบผิดปกติ นั่นก็คือ บริเวณหม้อน้ำของรถนั่นเอง และมีหลายคนที่ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
วันนี้เราจึงจะพาทุกคน ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ หม้อ น้ำรถยนต์ ว่ามีความสำคัญแบบใด แล้วหม้อน้ำแบบใดที่เหมาะกับรถของเรา
หม้อ น้ำรถยนต์ คืออุปกรณ์ที่มีความสำคัญของชิ้นส่วน รถยนต์ เป็นอุปกรณ์ในการแลกเปลี่ยนความร้อน และทำหน้าที่ในระบบหล่อเย็น วิธีการทำงานคือน้ำไหลตามโพรงเสื้อสูบ หลังจากนั้นเข้าสู่หม้อ น้ำทางด้านบน และไหลไปตามท่อ ซึ่งท่อเหล่านี้จะอยู่บริเวณกับรังผึ้ง ทำหน้าที่เป็นครีบระบายความร้อน สรุปง่าย ๆ คือ มีหน้าที่ในการช่วยระบายความร้อนจากรถ ตลอดจนการปรับอุณหภูมิในเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่ดีและเหมาะสม
ประเภทของ หม้อ น้ำรถยนต์
1. อลูมิเนียม แบบฝาเป็นพลาสติก
จริง ๆ แล้วชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในโรงงานผลิต รถยนต์ เกือบทุกประเภท และทุกยี่ห้อ เนื่องจากแบบอลูมิเนียมแบบฝาพลาสติก ข้อดีคือมีน้ำหนักเบา และราคาถูก นอกจากนี้ยังระบายความร้อนได้ดี และยังไม่เป็นสนิม หากเกิดการแตกหักบริเวณรอยต่อของพลาสติก ก็สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องซ่อม

2. หม้อ น้ำรถยนต์ อลูมิเนียมทั้งใบ
รถยนต์ บางคันก็นิยมใช้เป็นแบบอลูมิเนียมแบบทั้งใบ เป็นแบบที่ต้องมีการสั่งทำ และหาซื้อได้ค่อนข้างยาก มีข้อดีคือสามารถช่วยระบายความร้อน และมีความทนทานกว่าแบบอลูมิเนียมแบบฝาพลาสติก ข้อเสียคือราคาสูง และหากเกิดรั่วซึมก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น
3. หม้อทองแดง
เป็นหม้อที่พบได้ในอายุรถเกิน 20 ปี ขึ้นไป เป็นหม้อที่ถูกพ่นด้วยสารกันสนิมเพื่อรักษาความคงทน แต่ตัวหม้อจะมีความหนัก มีความทนทานกว่าอลูมิเนียม ราคาค่อนข้างสูง และระบายความร้อนได้ช้ากว่าหม้ออลูมิเนียม
วิธีการตรวจเช็ค เช็คปริมาณน้ำ
1. เปิดฝา หม้อ น้ำรถยนต์ ขนาดเครื่องเย็น และควรจะสวมถุงมือจับของร้อน
2. เช็คระดับน้ำว่ามีปริมาณลดลงไปมากเกินไปหรือไม่ หากมีปริมาณน้ำลดลงไปมากเกินความจำเป็น อาจจะเกิดจากสาเหตุการรั่ว วิธีการคือค่อย ๆ เติมน้ำลงไป ทิ้งไว้ข้ามคืน และตรวจสอบว่าน้ำยังรั่วอยู่หรือไม่
3. หากปริมาณน้ำยังลดอยู่ แต่มองไม่เห็นจุด หรือรอยรั่ว ให้นำรถเข้าเช็คอาการที่ศูนย์บริการทันที
อย่าปล่อยให้ หม้อ น้ำรถยนต์ แห้ง เพราะ รถยนต์ ทุกประเภท มีความจำเป็นต้องใช้ในการหล่อเย็น และระบายความร้อน ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้แห้ง หรือเกิดความเสียหาย ดังนั้นเราจึงควรมีการเช็คระยะและนำรถเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ว่ามีชิ้นส่วนใดชำรุดเสียหายหรือไม่
อ่านเพิ่มเติม: รถยนต์คันแรก