ต้องรู้ก่อนซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ดูอะไรบ้าง ?

by yanyon
บิ๊กไบค์มือสอง

สำหรับใครที่อยากจะมีรถสักคันหนึ่ง ทุกคนคงอยากจะมีรถใหม่มือหนึ่งกันทุกคน แต่อาจจะมีงบประมาณ ในการจะจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถบิ๊กไบค์ ที่มีราคาค่อนข้างสูง บางรุ่น มีราคาพอ ๆ กับรถยนต์ยี่ห้อดี ๆ บางคันเลย ดังนั้น บิ๊กไบค์มือสอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ วันนี้เราจะพาทุกคน ไปทราบ

ต้องรู้ก่อนซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ดูอะไรบ้าง ?  

รถบิ๊กไบค์ จัดอยู่ในตระกูลประเภทรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เครื่องยนต์มีขนาดตั้งแต่ 250 ซีซี ขึ้นไป ในแต่ละรุ่นก็จะมีรูปแบบของเครื่องยนต์และกำลังส่งแตกต่างกัน มีทั้งแบบสูบเดียว และ 4 สูบ ในบางรุ่น สามารถตกแต่งให้เพิ่มได้มากถึง 6 สูบ 

ประเภทของรถบิ๊กไบค์ 

1. Touring 

รถบิ๊กไบค์ประเภทนี้ซีซีมักจะสูง เหมาะกับการวิ่งทางไกล ขับขี่สบาย มีบังลมหน้าขนาดใหญ่ พร้อมกับที่ใส่สัมภาระ ลักษณะตัวถังไม่สูงมากทำให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้ง่าย ลักษณะแฮนด์ยกสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องก้ม 

2. Sport 

รถบิ๊กไบค์ที่มีรูปทรงปราดเปรียว เหมาะกับสายนักแข่ง ออกแบบมาเพื่อควบคุมรถง่าย ลักษณะผู้ขับต้องโน้มตัวไปด้านหน้า เพื่อลดการต้านแรงลม แฮนด์ที่จับมีลักษณะดรอปลง และตัวถังมีลักษณะสูงขึ้นรับช่วงลำตัว 

3. Naked Bike 

เป็นรถบิ๊กไบค์ที่ออกแบบมาสำหรับการขับทางไกล หรือกลุ่มนักท่องเที่ยว บิ๊กไบค์รุ่นนี้ขับที่ความเร็วต่ำ ไม่มีบังลมส่วนหน้า เสียงดังกระหึ่ม ลักษณะท่านั่งขับขี่ค่อนข้างสบาย บางครั้งผู้คนเรียกว่า ชอปเปอร์ 

4. Dual Purpose 

เป็นรถอเนกประสงค์ อีกประเภทหนึ่งของบิ๊กไบค์ ได้รับความนิยมแถบยุโรป เหมาะสำหรับการขับขี่บนเทือกเขา ทางวิบาก แล้วถนนเรียบ โดยปกติแล้วมีไว้สำหรับนักแข่งกึ่งวิบาก ที่ต้องการความแตกต่าง รถสามารถทำความเร็วได้ดี แต่ซีซีไม่สูงมาก 

  ซื้อ รถบิ๊กไบค์มือสอง ดูอะไรบ้าง ?

1. ตรวจเช็คเอกสาร เลขที่คอ เลขที่เล่มตรงกับเครื่อง 

  แน่นอนว่าการซื้อขายรถมือสอง สิ่งที่จำเป็นต้องดูคือเอกสารประกอบการซื้อขายรถ ไม่ว่าจะเป็นเล่ม ทะเบียนรถ ให้สังเกตเลขที่คอ และเลขที่เครื่อง ว่าตรงกับคู่มือการจดทะเบียนเล่มหรือไม่ 

2. สีรถควรเป็นสีเดิมจากโรงงาน 

สภาพสีรถไม่ควรเป็นการทำสีใหม่ รถที่จะซื้อควรจะเป็นสีเดิมจากโรงงาน เพื่อที่เราจะได้ ตรวจสอบถึงร่องรอยอุบัติเหตุ ซึ่งการตรวจสอบนี้อาจจะยากสักเล็กน้อย เนื่องจากโดยปกติของคนที่ขายรถ มักจะนิยมนำรถไปทำสี มากกว่าการเปลี่ยนอะไหล่ชุดแฟริ่ง ที่มีราคาแพงกว่า  

3. ตรวจสอบเครื่องยนต์ และเสียงของเครื่องยนต์ ไม่ควรสะดุด 

  อาจจะอาศัยวิธีการฟังเสียง ในกรณีที่ไม่มีเครื่องมือตรวจสอบ เช่น ให้ลองสตาร์ทรถ แล้วฟังเสียง ว่ารอบการเดินสะดุดหรือไม่ กรณีที่เป็นเครื่องสี่สูบ จะต้องมีรอบประมาณ 1,200 รอบต่อนาที อาจจะมีความสวิงบ้างแต่ไม่ควรมากจนเกินไป ในกรณีที่ เจอเคสแคมชาร์ฟละลาย เมื่อมีการบิดหรือเร่งเครื่อง ตัวเครื่องจะมีลักษณะสะท้าน ไม่นิ่ง อย่าลืมตรวจสอบปลายท่อไอเสียประกอบด้วย ว่ากระบอกสูบมีน้ำมันเครื่องเข้าไปและมีการเผาไหม้ไม่หมดหรือไม่ หากเกาะสะสมตัวนาน ๆ อาจจะมีคราบน้ำมันเยิ้มได้ 

4.  ตรวจเช็คอุปกรณ์ ว่ามีครบถ้วนหรือไม่ 

4.1 ยาง อย่างที่ดีจะต้องอยู่ในสภาพที่เนื้อไม่มีลักษณะแตกนิ่ม ถ้าเป็นไปได้ให้ดูวันผลิตอย่าให้นานจนเกินไป 

4.2 โซ่และสเตอร์ ในกรณีที่ซื้อแล้วต้องเปลี่ยนใหม่ราคาประมาณหมื่นกว่าบาท ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้มีการเปลี่ยน 

4.3 ผ้าเบรคแตก พิจารณาจากความหนา ความสึกกร่อน และอายุการใช้งาน หากมีลักษณะเก่า แนะนำให้เปลี่ยน 

4.4 จานเบรก สามารถดูได้จากความหนาและพื้นผิว หากเป็นจานเบรกหมายลักษณะพื้นผิวจะมีความเป็นเงา คล้ายกระจก หากมีการสึกกร่อน จะมีลักษณะเป็นพื้นผิวด้าน ๆ ไม่มีความเรียบ มีรอยเป็นคลื่น 

บิ๊กไบค์มือสอง

5. สิ่งที่ตาเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็น 

เนื่องจากมีอุปกรณ์บางส่วนที่ตาดูเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นของจริง เช่น เรือนวัดความเร็วระยะเลขไมล์ ซึ่งสามารถปลอมแปลงหรือปรับใหม่ได้ 

6. การรับประกัน รวมทั้งการบริการหลังการขาย 

สำหรับการซื้อรถกับเจ้าของโดยตรง อาจจะมีข้อเสียเรื่องประกัน ดังนั้นควรจะสอบถามรายละเอียดกับทางผู้ขายสามารถนำรถเข้าซื้อประกันได้ เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักบิ๊กไบค์ดีขึ้น และ สำหรับใครที่ต้องการจะซื้อ รถบิ๊กไบค์ มือสอง ก็น่าจะมีข้อมูล เพื่อสามารถนำไปวิเคราะห์และเปรียบเทียบ ก่อนจะซื้อ รถบิ๊กไบค์ มือสอง มาครอบครอง อย่าลืมหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ หากไม่มีความเข้าใจหรือความรู้ ควรจะปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ 

อ่านเพิ่มเติม: ล้างรถยนต์ด้วยสบู่

Related Posts

Leave a Comment