
ในปัจจุบันการใช้งานรถเกียร์ออโต้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสบายมากที่สุด เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องการใช้คลัตซ์หรือจับจังหวะการเข้าเกียร์เหมือนดังเช่นรถเกียร์ธรรมดา ทว่าสิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้คือเรื่อง สัญลักษณ์ เกียร์ออโต้
สัญลักษณ์ เกียร์ออโต้ ซึ่งมีเรื่องที่ต้องรู้ดังนี้
สัญลักษณ์ P
P เป็น สัญลักษณ์เกียร์ออโต้ ที่ย่อมาจากคำว่า Parking ใช้ในกรณีเมื่อเราต้องการจอดในลานจอดรถหรือในบริเวณที่กำหนดไว้ให้จอดรถ ตลอดจนหยุดรถในบริเวณที่มีพื้นที่ลาดชัน ซึ่งทุกครั้งที่ใช้เกียร์นี้เราต้องมั่นใจว่ารถจอดนิ่งสนิทและไม่ขวางทางรถคันอื่น ๆ
สัญลักษณ์ R
R เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้สำหรับถอยหลัง ย่อมาจากคำว่า Reverse หากเราใช้เกียร์นี้รถจะถอยหลังเองช้า ๆโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่ง ซึ่งทุกครั้งที่ใช้จำเป็นต้องระมัดระวังและต้องสังเกตบริเวณโดยรอบเพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
สัญลักษณ์ N
N เป็นสัญลักษณ์ของเกียร์ว่าง ย่อมาจากคำว่า Neutral ใช้เมื่อเราจำเป็นต้องจอดรถชั่วคราว, จอดชะลอในกรณีการจราจรติดขัดหรือติดไฟแดง รวมไปถึงหยุดรถในสถานที่ที่ลานจอดรถเต็มจำเป็นต้องจอดซ้อนคัน
สัญลักษณ์ D
D สัญลักษณ์ที่ย่อมาจากคำว่า Drive ใช้สำหรับการขับขี่ปกติเพื่อให้รถเดินหน้า อีกทั้งเกียร์นี้ยังเป็นเกียร์ที่ใช้บ่อยที่สุดเช่นกัน
สัญลักษณ์ D2
D2 เป็นเกียร์สำหรับการขึ้นเขา โดยเฉพาะการขับขี่บนถนนที่มีความคดเคี้ยวหรือกรณีที่รถต้องจอดในอาคารที่มีความลาดชันสูง ซึ่งหากจำเป็นต้องใช้เกียร์นี้ต้องระมัดระวังเรื่องความเร็วของรถให้ดี
สัญลักษณ์ D3
D3 เป็นเกียร์ที่ใช้สำหรับขึ้นสะพานสูง และเพื่อเร่งเครื่องแซงคันข้างหน้า ซึ่งเกียร์ D3 จะทำให้รถของเรามีแรงม้าสูงมากขึ้นจึงสามารถใช้บนทางลาดชันหรือสะพานลาดชันได้นั่นเอง
สัญลักษณ์ L
L คือสัญลักษณ์ที่ย่อมาจากคำว่า Low ใช้ขับรถในสถานการณ์ที่ถนนมีความสูงและลาดชัน เปรียบเสมือนเกียร์ต่ำที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ อาทิ การขึ้นเนินที่มีความลาดชันสูง ๆ หรือการขึ้นเขาเป็นต้น
สัญลักษณ์ S หรือ B
สำหรับรถรุ่นใหม่สัญลักษณ์ S และ B จะมีเพิ่มเข้ามา ซึ่ง S ย่อมาจากคำว่า Sport จะช่วยเปลี่ยนอัตราการทดเกียร์ของเราให้ช้าลงเพื่อให้รถมีความเร็วมากยิ่งขึ้น สำหรับ B ย่อมาจาก Break ใช้ในกรณีขึ้นทางลาดชันมีลักษณะการทำงานคล้ายกับเกียร์ L
แม้การขับรถเกียร์ออโต้จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับมือใหม่เรื่อง สัญลักษณ์เกียร์ออโต้ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามและจำเป็นต้องศึกษาเรื่องการใช้งานแต่ละสัญญาลักษณ์ให้ชัดเจน เพื่อให้เราขับขี่รถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม: 5 วิธีเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ ให้คุ้มค่าคุ้มราคา