
หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ฝนตก รถติด แต่สำหรับบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ เพราะอะไรฝนก็ตก แต่รถกลับสตาร์ทไม่ติด ซึ่งเชื่อกันว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยเจอปัญหาแบบนี้ คือเมื่อต้องขับรถตากฝน หรือ ลุยฝน ปรากฏว่า อาการต่อมาคือ รถของเรากลับมีอาการสตาร์ทไม่ติด ไปดื้อ ๆ วันนี้เราจะพาทุกคนมาหาสาเหตุ และวิธีการสังเกตอาการ รถสตาร์ทไม่ติด เมื่อ ฝนตก
วิธีการสังเกตอาการ รถ สตาร์ทไม่ติด เมื่อ ฝนตก
- ระบบไฟฟ้าขัดข้อง ช็อต เสียหาย
ในกรณีที่ ฝนตก แล้วเกิดน้ำรั่ว หรือซึมเข้าไปบริเวณกล่องควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) ที่เป็นตัวหลัก ในการทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หากมีน้ำรั่วไหลเข้าไปจนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ รถ สตาร์ทไม่ติด เพราะน้ำจะส่งผลให้ภายในรถยนต์เสียหายไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่รถยนต์ ไดชาร์จ ระบบแอร์พัง พวงมาลัยไฟฟ้า EPS รวมไปถึงวิทยุ เป็นต้น วิธีการแก้ไขเบื้องต้น ถ้าพบว่านำเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ ควรเรียกช่างมาตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ รวมไปถึงการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ เช่น แผงที่หน้าปัด ถอดคอนโซลออกมาทำความสะอาด รวมไปถึงการตรวจสอบของเหลวทุกอย่างในรถ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเบรกเป็นต้น
- น้ำไหลเข้าท่อหายใจของเครื่องยนต์ หรือท่อไอดี
อีกหนึ่งกรณีที่ทำให้ รถสตาร์ท ไม่ติด สาเหตุจาก ฝนตก จนทำให้น้ำรั่วไหลเข้าไปยัง ท่อไอเสียเครื่องยนต์ ส่งผลต่อระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงพังเสียหาย จนทำให้รถดับ วิธีการแก้ไขเบื้องต้นคือ กรณีที่เครื่องยนต์ไม่ดับ แต่น้ำเริ่มเข้าท่อไอเสียรถยนต์ ให้หาจุดพักรถ หลบเลี่ยงบริเวณน้ำท่วมขัง และบริเวณที่มีน้ำฝน ไม่ควรดับเครื่องทันทีที่ถึงจุดหมาย ต้องสตาร์ทไว้สักพัก เพื่อเป็นการไล่น้ำที่ค้างอยู่ในหม้อพักออกจากท่อไอเสีย จากนั้นเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ให้เรียบร้อย
- ฝนตก ทำให้น้ำรั่วเข้าไปใน ระบบกรองอากาศ
สังเกตง่าย ๆ เมื่อ เครื่องยนต์มีอาการสำลักน้ำ เป็นสาเหตุบ่งบอกว่า น้ำเข้าไปบริเวณไส้กรองอากาศ ส่งผลให้ตัวเครื่องยนต์ และห้องเผาไหม้ในตัวเครื่องยนต์เกิดการทำงานที่ผิดปกติ วิธีการสังเกตและแก้ไขเบื้องต้นคือ หากนำเข้าไปในบริเวณไส้กรองอากาศ ไส้กรองจะมีลักษณะเปียก ควรทำการเปลี่ยนไส้กรองใหม่ อยู่ในลักษณะที่ รถสตาร์ท ไม่ติด ควรโทรหาบริษัทประกัน หรือเรียกรถลากไปยังศูนย์ให้บริการ
ในช่วง ฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมขัง หรือปัญหา ฝนตก หนักจนทำให้น้ำรั่วเข้าไปในรถของเรา ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาดังที่กล่าวข้างต้น จนส่งผลให้ รถสตาร์ทไม่ติด วิธีการแก้ปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่รอให้เกิดปัญหา แต่เราควรจะมีการป้องกันด้วยการเช็ค สภาพรถทุกครั้งก่อนการออกเดินทาง หมั่นดูแลรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งระบบยางรถยนต์ ระบบเบรก แบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
อ่านเพิ่มเติม: วางแผนเที่ยว