
รู้หรือไม่ว่า โช้คอัพรถยนต์ นั้นมีความสำคัญกับรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ โช้คอัพทำหน้าที่ให้ดูดซับแรงกระแทก ลดการสั่นสะเทือนของรถ แล้วยังมีหน้าที่คอยหน่วงการเคลื่อนที่ ไม่ให้รถมีการเคลื่อนที่ ขึ้น ลง เร็วจนเกินไปเมื่อสัมผัสกับพื้นถนน โช้คอัพเหมือนสปริงขนาดใหญ่นั่นเอง
ประโยชน์ของ โช้คอัพรถยนต์
1. ช่วยให้เกิดความนิ่มนวลถนัดขับขี่ ทำให้เราขับขี่อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
2. ช่วยลดส่งตัวได้ดี เกิดความปลอดภัยเมื่อมีการเลี้ยว
3. ช่วยให้หน้ายางเกิดความสัมพันธ์เท่ากันทุกล้อ โดยไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อย
ประเภทของ โช้คอัพรถยนต์
โดยปกติแล้ว โช้คอัพรถยนต์ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน
1. โช้คอัพระบบน้ำมัน
การทำงานของโช้คอัพระบบน้ำมันคือ การทำงานระบบไฮดรอลิค หมายความว่าในขณะที่กำลังทำงานอยู่นั้น น้ำมันไฮดรอลิคจะทำหน้าที่ไหลผ่านวาล์วลูกสูบ ทำให้เกิดปฏิกิริยาฟองอากาศภายใน ในกรณีที่ฟองอากาศมีการแตกตัว ก็จะทำให้การทำงานของโช้คอัพผิดปกติ โช้คอัพน้ำมันที่ใช้น้ำมันไฮดรอลิคในการทำงาน จะทำให้เกิดความหนืด โช้คอัพประเภทนี้มักจะราคาไม่แพง ข้อดีคือยึดเกาะถนนได้ดี แต่มีข้อจำกัดคือลักษณะความแข็ง และเมื่อโช๊คอัพเสียหายรู้สึกว่าจะทำให้น้ำมันรั่วและเกิดความสกปรก
2. โช้คอัพแก๊ส
โช้คอัพแก๊สเป็นการทำงานระหว่างแก๊สไนโตรเจน และน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งปกติถือว่าเป็นโชคดีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ลูกสูบจะทำหน้าที่ในการเลื่อนตัวลงไปข้างล่างของกระบอกสูบและไหลขึ้นมาผ่านวาล์วไปยังห้องน้ำมันด้านบน และบางส่วนก็จะไหลลงด้านล่างเพื่อไปพักตัวอยู่ที่ห้องน้ำมันสำรอง ข้อดีคือ ให้ความนุ่มนวลขณะขับขี่ และสามารถลดแรงกระแทกได้ดี ข้อจำกัดคือ มีราคาค่อนข้างสูง
หากโช้คอัพพัง ?
กรณี โช้คอัพรถยนต์ พังจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ตามมา นั่นคือรถยนต์ไม่สามารถควบคุมการทำงานได้ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุในกรณีที่มีการเข้าโค้งและรถยนต์ไม่สามารถส่งตัวได้ จะทำให้เสียการควบคุม
สัญญาณบ่งบอกว่ากำลังมีปัญหา โช้คอัพรถยนต์ พัง
1. ปัญหาฝากระโปรงรถเด้งขึ้นหลายครั้ง เมื่อใช้มือกดที่ฝากระโปรง
เมื่อเราใช้มือกดไปที่ฝากระโปรงรถ เพื่อเช็คการคืนตัวของโช้คอัพ และเกิดปัญหาว่าฝากระโปรงไม่สามารถปิดได้หรือมีการเร่งตัวคือหลายครั้ง หรือในลักษณะของการเด้งขึ้นลง หมายความว่าโช้คอัพเริ่มมีปัญหา
2. โช้คอัพบิดเบี้ยวผิดรูปทรง
ในกรณีที่โช้คอัพมีการบิดเบี้ยวผิดไปจากรูปทรงเดิม เช่น มีรอยบุบ คดงอ กระบอก โช้คอัพเบี้ยว หมายความว่าโช้คอัพเสีย สิ่งที่ต้องทำคือควรจะรีบเปลี่ยน ในทันที
3. มีคราบน้ำมันเลอะเทอะเปื้อนบริเวณโช้คอัพ
หากพบว่ามีรอยรั่วซึมรวมไปถึงคราบน้ำมันต่าง ๆ เพิ่มเพื่อนบริเวณโช้คอัพหรือบริเวณใกล้เคียงเช่น แกนโช้คอัพ ซีลโช้ค หมายความว่าโช้คอัพรั่วหรือเสื่อมสภาพ ต้องเปลี่ยน
4. รถมีอาการโคลงเคลง และเช็ดหัวขึ้นเวลาออกตัว
หากเราขับรถด้วยความเร็วปกติ หรือออกตัวด้วยความเร็วคงที่ แล้วรถมีอาการโคลงเคลง ยังไปเอียงมาหรือมีลักษณะหน้ารถเชิดขึ้น เมื่อออกตัว แปลว่าโช้คอัพรถเสีย
5. รอยรั่วของน้ำมัน
ให้สังเกตบริเวณโช้คอัพหากมีคราบน้ำมันเปรอะเปื้อนไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวโช้คอัพเอง หรือบริเวณส่วนอื่น ๆ เช่นแกนโช้คอัพที่มีลักษณะอาการน้ำมันรั่วซึม หมายความว่าโช้คอัพมีปัญหา
6. หน้ายางรถยนต์มีรอยสึกไม่มีความสม่ำเสมอ
หากมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อที่ถูกต้องแล้วแต่บริเวณหน้ายางยังไม่มีความสม่ำเสมอในขณะวิ่งรถไปได้สักพัก หมายความว่าโช้คอัพเสื่อมสภาพ
8. มีอาการรถกระเด้งกระดอน
เมื่อมีการขับรถผ่านบริเวณพื้นถนนที่ขรุขระหรือบริเวณคอสะพาน รวมไปถึงลูกระนาด รถมีอาการกระเด้งกระดอนหลายครั้งไม่มีความนิ่มนวล
9. รถส่ายไปมาเมื่อขับเร็ว
หากขับรถที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางตรง และรถมีอาการส่ายไปมา อาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือสูญเสียการทรงตัวได้ จะต้องรีบเปลี่ยนโช้คอัพเพื่อความปลอดภัย หากรถยนต์ของใครมีอาการดังกล่าว บอกไว้ว่าปัญหาเหล่านี้ควรจะรีบแก้ไขโดยด่วน เพราะมันหมายถึงความปลอดภัยของตัวเรา และผู้ใช้ถนนร่วมกัน อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุ ปัญหา โช้คอัพรถยนต์ เป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้
อ่านเพสิ่มเติม: หม้อน้ำ รถยนต์