ประกันภัยรถ มีกี่แบบให้เลือก ต่างกันอย่างไร

by yanyon
ประกันภัยรถ

นอกจากเราควรทำประกันสุขภาพแล้ว การทำ ประกันภัยรถ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าหลายแสนหลายล้านบาท ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน โดยประกันรถยนต์แบ่งได้ตามความจำเป็น คือ ภาคบังคับ กับภาคสมัครใจ

ซึ่งมีรายละเอียดประกันภัยรถต่างกัน ดังนี้

1. ภาคบังคับ

การ ประกันภัย รถยนต์ภาคบังคับ เป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับรถทุกคัน อ้างอิงจาก พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ ที่ออกมาเมื่อ พ. ศ. 2535 กำหนดไว้ว่าเจ้าของรถต้องทำ มิเช่นนั้นต้องโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ผู้เสียหายจากรถขับขี่ / สิ่งของร่วงหล่นหรือเป็นอันตรายต่อคน ก็ต้องได้รับการเยียวยา

โดยมีระดับการเยียวยาสองแบบ คือ 

– ความคุ้มครอง เช่น ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน ถ้าเสียชีวิต / พิการ จะได้รับค่าชดเชย 5 แสนบาท เป็นต้น กรณีไม่ได้เสียชีวิตแต่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อดูแลรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ ก็จะได้ค่าชดเชยรายวันไม่เกิน 20 วันในอัตรา 200 บาทต่อวันด้วย

– ค่าเสียหายเบื้องต้น เป็นสิ่งที่ได้รับในทันทีโดยไม่ต้องตรวจพิสูจน์ ซึ่งทางบริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายให้เช่น ค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน หากเสียชีวิตจะได้ค่าปลงศพ 30,000 บาท เป็นต้น

ประกันภัยรถ

2. ภาคสมัครใจ

ประกันแบบนี้คือ ส่วนที่เราทำการซื้อเพิ่มเมื่อเราซื้อรถคันใหม่หรือทำกับรถคันเก่าก็ตาม แบ่งเป็น 5 ประเภทย่อย คือ 

– ประกันชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน มีเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 5 แสนบาทต่อคน ทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าเสียหายให้ไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทั้งยังครอบคลุมในกรณีที่รถถูกขโมย-ไฟไหม้รถด้วย

– ประกันชั้น 2 คุ้มครองเหมือนประเภทแรก ยกเว้นไม่ครอบคลุมอุปกรณ์แต่งรถที่เจ้าของต่อเติมเอง 

– ประกันชั้น 3 จะไม่คุ้มครองกรณีที่รถถูกโจรกรรม-ไฟไหม้ และของตกแต่งรถ

– ประกันชั้น 4 จะครอบคลุมกรณีที่ทรัพย์สินเสียหายในวงเงิน 1 แสนบาท 

– ประกันชั้น 5 เป็นการคุ้มครองที่เฉพาะตัว มีหลายชนิดย่อยเช่น แบบ 2 Plus ก็คือ ประกันภัยชั้น 2 แต่เพิ่มความรับผิดชอบกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกและต้องมีคู่กรณี, แบบ 3 Plus คือ ประกันภัยรถ ชั้น 3 แต่เพิ่มความรับผิดชอบถ้าชนกับยานพาหนะทางบก

ประกันภัยรถ

ด้านค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันภัย

หากเป็นประกันภาคบังคับจะขึ้นกับประเภทรถ ส่วนประกันภาคสมัครใจขึ้นอยู่กับอายุของรถ จำนวนเงินเอาประกัน อายุของเจ้าของรถ (ผู้ใช้งาน) เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า การทำประกันรถยนต์นั้นมีหลายแบบที่คุณต้องเลือกตามความเสี่ยงให้ครอบคลุมมากที่สุด แม้อุบัติเหตุจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การทำประกันเพื่อการลดภาระด้านค่าใช้จ่ายและเป็นการเยียวยาแก่ผู้เสียหาย ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้อุ่นใจแก่ทุกฝ่าย

อ่านเพิ่มเติม: การต่อภาษีรถ คืออะไร เข้าใจง่ายใน 3 นาที

Related Posts

Leave a Comment