5 ประเภทของประกันภัยรถยนต์ ควรรู้

by yanyon

รถยนต์เป็นยานพาหนะที่ต้องวิ่งอยู่บนท้องถนนซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น แน่นอนว่าย่อมอาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ ซึ่งการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ เบื้องต้นเราขับขี่ด้วยความไม่ประมาท แต่นั่นก็อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการสร้างหลักประกันความเสี่ยงเพื่อลดความเสียหายจากอุบัติเหตุด้วยการทำ ประกันภัยรถยนต์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ประกันภัยรถยนต์

ทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์

แน่นอนว่าประกันภัยเบื้องต้นที่รถทุกคันจำเป็นต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดคือประกันภัยภาคบังคับหรือทีเราเรียกกันสั้น ๆ ว่าการทำ ประกันภัย รถยนต์ ตาม พ.ร.บ. แต่นอกเหนือจากประกันภัยภาคบังคับแล้ว บริษัทประกันอุบัติภัยยังมีประกันให้เราเลือกเพิ่มเติมอีก 5 ประเภทด้วยกัน ซึ่งเราสามารถซื้อประกันต่างหากได้ตามความสมัครใจ ประกอบไปด้วย

ประกันภัยประเภทที่ 1 

เป็นการประกันภัยที่ครอบคลุมความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้มากที่สุด เนื่องจากประกันประเภทนี้จะคุ้มครองทั้งรถและทรัพย์สินของผู้ทำประกัน ในกรณีที่รถและทรัพย์สินของคู่กรณีได้รับบาดเจ็บทางร่างกายผู้ทำประกันและคู่กรณีจะได้การคุ้มครองรวมไปถึงกรณีรถหายหรือไฟไหม้อีกด้วย

ประกันภัยประเภทที่ 2 

ประกันภัยประเภทนี้ให้ความคุ้มครองเกือบเทียบเท่าประกันชั้นหนึ่งยกเว้นก็แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายรถของผู้ทำประกันภัยเท่านั้นเอง

ประกันภัยประเภทที่ 3 

สำหรับประกันรถยนต์ประเภทนี้ เน้นคุ้มครองความเสียหายของคู่กรณีทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก โดยไม่คุ้มครองความเสียหายรถของผู้ทำประกัน ยกเว้นผู้โดยสารในรถที่ทำประกันยังได้รับความคุ้มครองจากประกันประเภทนี้อยู่ 

ประกันภัยรถยนต์

ประกันภัยประเภทที่ 4 

ประกันภัยประเภทนี้เป็นประกันภัยประเภทที่จำกัดความรับผิดชอบเฉพาะกับบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท 

ประกันภัยประเภทที่ 5 

ประกันภัยนี้เป็นแบบประกันภัยที่ออกมาใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ทำประกันที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับการทำประกันภัยประเภทที่สองและสาม โดยจะเรียกว่าประกันภัย 2+ คือความคุ้มครองหลัก ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเหมือนกับประกันภัยประเภทที่ 2 ทุกประการ แตกต่างเพียงเพิ่มความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้ทำประกัน ในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุร่วมกับยานพาหนะทางบกที่ต้องมีพยานหลักฐานและคู่กรณีที่ชัดเจน สำหรับการประกันภัยประเภทย่อยที่เรียกว่า 3+ ก็เช่นเดียวกัน คือความคุ้มครองหลักเหมือนกับประกันภัยชั้น 3 ทุกประการ โดยเพิ่มความคุ้มครองรถยนต์ของผู้ทำประกันในกรณีประสบอุบัติเหตุร่วมกับยานพาหนะทางบก ต้องพบหลักฐานและมีคู่กรณีด้วยเช่นกันการทำ ประกันภัย รถยนต์ ถือว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงที่คุ้มค่าเพราะทั้งรถยนต์และชีวิตของทุกคนไม่ว่าผู้ทำประกันเองหรือคู่กรณีล้วนเป็นสิ่งที่มีค่าทั้งนั้น เนื่องจากความเสียหายที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นควรมีอะไรสักอย่างมารองรับ อย่างน้อยก็เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนบนท้องถนนได้ระดับหนึ่ง

อ่านเพิ่มเติม: เวลาในการเปลี่ยนยางรถยนต์ สังเกตได้ง่าย ๆ จาก 5 สัญญาณเตือน!

Related Posts

Leave a Comment